ข่าวการเมือง

ส่องคำแถลงนโยบาย “อนุทิน” ชูคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เอากาสิโน

ส่องคำแถลงนโยบาย อนุทิน ชาญวีรกูล ชูคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่สนับสนุนกาสิโน สนับสนุนการจัดทำประชามติ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

จากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือด่วนส่งมายัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เรื่องการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภา

โดยในวันนี้ (25 ก.ย.) รัฐบาลจะส่งเล่มนโยบายจำนวน 1 เล่ม มายังรัฐสภา พร้อมกับคำแถลงนโยบายของ ครม. ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง ครม.ได้กำหนดวันพร้อมที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2568 เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวจากรัฐสภา รายงานว่าสำหรับคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่จะแถลงต่อรัฐสภา มีสาระสำคัญคือ ครม.ขอแถลงถึงหลักการบริหารราชการแผ่นดินและนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

1.พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล

ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด และงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้จัดทำ ทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาที่ประเทศในขณะนี้ได้แก่ ภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการวางรากฐานประเทศ การพัฒนาความสามารถการแข่งขันของประเทศ การสร้างระบบเศรษฐกิจโปร่งใส การสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสันติสุข

รัฐบาลจะสนับสนุนการจัดทำประชามติ การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รับฟังเสียงประชาชน สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนให้สอดคล้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลกำหนดนโยบายสำคัญแก้ปัญหาเร่งด่วนประเทศ ดังนี้

ด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้ลดรายจ่ายให้ประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ ค่าพลังงาน ค่าน้ำดื่มสะอาด ค่าโดยสาร ให้มีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยจัดทำโครงการคนละครึ่ง การบริหารจัดการราคาสินค้าเกษตรในระดับที่เหมาะสม

แก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่องบนพื้นฐานความเสี่ยงที่เป็นธรรม อาทิ แก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชนในระบบ รายละไม่เกิน 1แสนบาท การเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการรัฐวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม รายละไม่เกิน 1ล้านบาท ควบคู่กับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ลูกหนี้ที่มีวินัยชำระหนี้

เพิ่มโอกาสการออมของประชาชนรายย่อย ฟื้นความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว มุ่งเน้นสร้างความปลอดภัย ปราบปรามการฉ้อโกง หลอกลวงนักท่องเที่ยว และ เร่งแก้ปัญหาผลกระทบสงครามการค้า จัดตั้งทีมไทยแลนด์ยกระดับการค้าเสรีกับคู่ค้าเดิม และดำเนินการเชิงรุกเปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น การดูแลผู้ประกอบการ เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ

ด้านความมั่นคง เร่งแก้ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชาด้วยแนวทางสันติภาพแก่ประชาชนตามชายแดนโดยเร็ว ยุติความขัดแย้งผ่านกลไกการเจรจาทางการทูตที่เหมาะสมควบคู่กับการป้องกันประเทศที่เข้มแข็ง ตลอดจนทำประชามติให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจในการยกเลิกบันทึกเอ็มโอยู่ไทย-กัมพูชา

นอกจากนี้จะเร่งแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชนควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ด้านสังคม ปราบการพนันผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างจริงจัง ไม่สนับสนุนการประกอบธุรกิจพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจพนัน การพนันที่แฝงมาในรูปกีฬา อาทิ โป๊กเกอร์ จะแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน ควบคุมและลดการอนุญาตการเล่นการพนัน รวมถึงการรักษาหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด การขจัดทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด จริงจัง การพิทักษ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น

ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งติดตั้งเครื่องมือเตือนภัย พัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติในพื้นที่มีความเสี่ยงสูง เยียวยาฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน เน้นนำข้อมูลส่วนราชการส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติในพื้นที่อย่างจริงจัง การอนุรักษ์ฟื้นฟู รักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างเป็นระบบ การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและระบบขนส่งสาธารณะ

ด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย เร่งรัดการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เสนอร่างกฎหมายยกระดับการบริหารภาครัฐ และอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชน บูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม การเร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย ยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค สร้างภาระแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ

ส่วนแนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์ชาติ ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ จะผลักดันการพัฒนาแนวนโยบายรัฐและยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน ในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง อาทิ การให้คนไทยทุกช่วงวัยทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิการศึกษา ระบบสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เท่าเทียม

การผลักดันกฎหมายปฏิรูปการศึกษา การพัฒนาบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ การวางรากฐานปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศไปสู่ยุคใหม่ จากเดิมเน้นปริมาณ ไปสู่การสร้างมูลค่า ยกระดับ ภาคเกษตรกรรมไทยไปสู่เกษตรอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มผลิตภาพ ลดความเสี่ยงภัยธรรมชาติ

การวางรากฐาน SMEs ก้าวทันโลกควบคู่กับการยกระดับโครงสร้างสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ สนับสนุนผู้ประกอบการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสม การผลักดันกฎหมายสำคัญรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับการพัฒนาประเทศควบคู่กับการส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในโครงการขนาดใหญ่ การสืบสานต่อยอดโครงการพระราชดำริ

รัฐบาลมีความมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ควบคู่กับการวางรากฐานประเทศ นำพาประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และมีคุณธรรม ยึดประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง สร้างความเชื่อมั่นการดำเนินนโยบายการคลังให้น่าเชื่อถือ โปร่งใส มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ

ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง เน้นการบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เป็นหลัก จะใช้จ่ายงบประมาณด้วยความรอบคอบ ในฐานะนายกฯ จะบริหารราชการแผ่นดินให้สามารถแก้ปัญหาประเทศ พร้อมวางรากฐานพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อความอยู่ดี มีสุขของประชาชน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button