ข่าว

เพื่อไทย เผยแนวทางแก้ รธน.หลังต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ยันเดินหน้า ตามเจตนารมณ์

วิเคราะห์ประเด็นสำคัญจากข่าว

“เพื่อไทย” ออกแถลงการณ์ ยืนยันเดินหน้าผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยได้เสนอ 4 แนวทางปฏิบัติใหม่เพื่อฝ่าด่านประชามติ 3 ครั้ง และหาทางออกเรื่อง สสร.

11 กันยายน 2568 พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ แสดงจุดยืนและแนวทางการผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะสร้างเงื่อนไขและกระบวนการที่ซับซ้อนขึ้น แต่พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะเดินหน้าต่อไป

“จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 เรื่อง อำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามคำร้องของประธานรัฐสภา สืบเนื่องมาจากญัตติของ น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย

เนื่องจากคำวินิจฉัยฉบับเต็มและคำวินิจฉัยส่วนตนยังไม่ประกาศเผยแพร่ มีเพียงคำแถลงข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อพิจารณาจากคำแถลงข่าวยังคงมีประเด็นของความชัดเจนแน่นอนที่จะนำไปสู่การถกเถียงในเนื้อหาบางประเด็น เช่น คำวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งขัดต่อหลักการที่ว่า ประชาชนมีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ อีกทั้งมิใช่ประเด็นคำถามในอำนาจหน้าที่ที่รัฐสภาส่งไปโดยตรงแต่อย่างใด

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว บางฝ่ายได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าเพราะญัตติของพรรคเพื่อไทย เป็นเหตุให้ต้องส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องยุ่งยากสลับซับซ้อนขึ้น ประเด็นดังกล่าวต้องย้อนกลับไปเมื่อประธานรัฐสภาตัดสินใจบรรจุระเบียบวาระรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

เห็นได้ชัดเจนว่าการประชุมรัฐสภาไม่อาจเกิดขึ้นได้ ปิดประตูการเสนอญัตติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสิ้นเชิง ในขณะนั้นสมาชิกบางส่วนยังยืนกรานว่ารัฐสภามีอำนาจ ไม่สมควรส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจึงแสวงหาหนทางในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร จึงสามารถผลักดันให้รัฐสภามีมติได้

แถลงการณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคเพื่อไทย
ภาพจาก: FB/ พรรคเพื่อไทย

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญพอจะสรุปสาระสำคัญได้ว่า

1. รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน

2. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐธรรมนูญด้วย

3. รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง

4. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง

  • ครั้งที่ 1 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
  • ครั้งที่ 2 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร
  • ครั้งที่ 3 ภายหลังรัฐสภาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

โดยการออกเสียงประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้

ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ยังยืนยันที่จะเดินหน้าทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป และจะดำเนินการดังนี้

1. เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ดังนั้น จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในหมวด 15 เป็นอย่างอื่นมิได้ คงทำได้เพียงเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น โดยให้รัฐสภาพิจารณาเป็นสามวาระ ต้องนำไปทำประชามติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8)

2. การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่อาจกระทำโดย สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนได้ แต่อาจจะทำได้โดยเลือก สสร. โดยทางอ้อม หรือรัฐสภามีมติแต่งตั้ง สสร. หรือคณะกรรมาธิการขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะทำงานของพรรคจะได้ไปไต่ตรองตัดสินใจในขั้นเสนอญัตติต่อรัฐสภา

3. สำหรับการทำประชามติ เนื่องจากต้องดำเนินการตามหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจึงต้องทำประชามติอยู่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8) โดยรัฐสภาต้องแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ

ส่วนการทำประชามติครั้งที่ 1 จะเกิดขึ้นเมื่อใด พร้อมกันกับการทำประชามติครั้งที่ 2 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (8) หรือไม่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิจารณา เพราะการทำประชามติจะเกิดขึ้นได้ เมื่อรัฐบาลพิจารณาเห็นสมควร หรือเมื่อรัฐสภาร้องขอตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เช่นกัน

4. สำหรับคำถามประชามติครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ควรต้องมีคือ

  • คำถามแรก เห็นชอบว่าสมควรมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ (ครั้งที่ 1)
  • คำถามที่สอง เห็นชอบกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามรายละเอียดในรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในหมวด 15 หรือไม่ (ครั้งที่ 2)

พรรคเพื่อไทยจึงขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าจะผลักดันและเดินหน้าให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button