ไฟไหม้ร้านจำหน่ายน้ำมันขวด เจ้าของหนีตายออกหลังร้าน พบสาวร่างใหญ่มาหน้าร้านก่อนเกิดเหตุ คาดถูกวางเพลิง
เมื่อเวลา 01.50 น. วันนี้ (21ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุไฟไหม้บ้านบริเวณสี่แยกนรหัช ถนนศรีเสนาตัดกับถนน หัชนานิเวศน์ซอย 1 อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้งได้ประสานไปยังงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต ภายใต้การสั่งการของ นายพงษ์ศักดิ์ ศิริทัพ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครภูเก็ต นำรถดับเพลิงพร้อมรถน้ำรวม 5 คัน เดินทางไปยังจุดเหตุ และเร่งทำการฉีดสกัดเพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านเรือนใกล้เคียง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการปฏิบัติงาน
ตรวจสอบพบเป็นอาคารปูนชั้นเดียว ด้านหน้ามีชั้นสำหรับวางขวดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจำหน่าย ขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านได้เข้าไปนอนพักผ่อนภายในบ้าน ช่วงเกิดเหตุได้มีพนักงานร้านคาราโอเกะซึ่งอยู่ใกล้กันเห็นเพลิงลุกไหม้อยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ไปเรียกเจ้าของบ้านทราบชื่อภายหลังคือ นางกล้วย เหินสันเทียะ อายุ 69 ปี ให้ออกมาทางด้านหลังร้าน พร้อมด้วยลูกชายและลูกสะใภ้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนของทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด เนื่องจากไม่สามารถนำอะไรออกมาได้ รวมถึงรถจักรยานยนต์ 1 คันด้วย
สอบถาม นางกล้วย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ขายน้ำมันขวดไปได้ 2-3 ขวด ก็ได้เข้าไปนอนพักผ่อนในบ้าน ซึ่งปกติจะนอนคนเดียว แต่เนื่องจากรู้สึกไม่สบาย ลูกชายและลูกสะใภ้มานอนเป็นเพื่อน ระหว่างนั้นก็ได้ยินพนักงานร้านคาราโอเกะซึ่งอยู่ติดกันมาตะโกนเรียกที่หลังบ้านว่า ไฟไหม้ให้รีบออกมา ด้วยความตกใจก็ไม่ได้หยิบอะไรออกมาเลย และจากการพูดคุยกับพนักงานร้านคาราโอเกะ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุเห็นผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท้วมเดินถือแกลลอนน้ำมันมา จากนั้นก็เห็นไฟลุกไหม้ ซึ่งตนก็พอทราบว่าเป็นใคร และลูกชายก็ไปดูที่ห้องพักของผู้หญิงดังกล่าวก็ไม่พบตัว จึงคิดว่าไม่น่าจะผิดตัว ซึ่งกับบุคคลดังกล่าวก็ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน และก่อนหน้านี้ก็เคยให้พักอาศัยอยู่ด้วยประมาณ 2 เดือน ก่อนที่เขาจะมีงานทำและย้ายออกเช่าบ้านอยู่เอง หากเป็นไปตามที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง เชื่อว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน
อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเจ้าของบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์เบื้องต้น เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน หาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ และติดตามผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เพื่อหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
