เมียหลวงโหด ท้อง 7 เดือน บุกกระทืบสาวจนตาย ผัวยืนเฉยไม่ช่วย กลัวโดนทำร้ายด้วย

คดีโหด เมียหลวง ท้อง 7 เดือน บุกรีสอร์ต ลากหญิงสาวทำร้ายเสียชีวิตกลางวันแสก ๆ กล้องวงจรปิดจับภาพชัด
จากดราม่าทะเลาะวิวาทผัวเมีย บานปลายจนถึงแก่ชีวิต เช้าวันที่ 20 เมษายน กลายเป็นคดีสะเทือนใจที่สังคมไทยจับตา หญิงสาวรายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “มือที่สาม” ถูกหญิงอีกคนที่อ้างตัวเป็นภรรยาหลวง ทั้งที่ตั้งท้อง 7 เดือน บุกถึงที่พัก แล้วลงมือทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จุดเริ่มต้นของเหตุสลดนี้เกิดขึ้นที่ “เช็คอินรีสอร์ต” ย่านมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ในคืนก่อนเกิดเหตุ นายสงวน ได้เข้าพักกับหญิงสาวชื่อ น.ส.พจนารถ ทั้งสองเพิ่งรู้จักกันไม่นาน กระทั่งช่วงเช้าประมาณ 7 โมง น.ส.วรวรรณ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นภรรยาของนายสงวน เดินทางตามหาสามีที่รีสอร์ตแห่งนี้ กระทั่งบานปลายปะทะคารมกับอีกฝ่าย ก่อนจะลงมือจิกหัว ลากตัวออกมาด้านหน้ารีสอร์ต แล้วทำร้ายด้วยมือเปล่าหลายครั้ง
ในกล้องวงจรปิดด้านหน้าจะเห็นได้ว่าหญิงผู้เป็นเมียหลวง มีผู้ชายคนหนึ่ง(ชายเสื้อน้ำเงินในคลิปไม่ใช่สามี) พยายามห้ามปราม โดยมีพจนารถ นอนหมดสติอยู่หน้าห้อง วรวรรณ ซึ่งอยู่ในอารมณ์สั่นคลอน พยายามร้องไห้เคาะประตูเรียกสามี พร้อมตะโกนว่า “ทำไมมึงทำกับกูแบบนี้” ก่อนจะลากร่างหญิงที่นอนแน่นิ่งเข้าไปภายในพื้นที่ด้านหน้า แล้วใช้มือจิกผมและใช้เท้าเตะอีกหลายครั้ง แม้เจ้าหน้าที่รีสอร์ตจะเข้ามาห้าม ก็ยังต้องใช้ความพยายามอยู่นาน
จากนั้น นายบาส สามีในคดี จึงออกมาจากห้องและอุ้มร่างหญิงสาวจะนำส่งโรงพยาบาล แต่วรวรรณ ยังไม่ยอมให้กุญแจรถ จนต้องมีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยไกล่เกลี่ย สุดท้ายจึงยินยอมให้ขับรถออกไปได้ แต่โชคร้ายที่ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้
เบื้องต้น ตำรวจสน.มีนบุรี ได้ตั้งข้อหา น.ส.วรวรรณ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการดำเนินคดี ไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีความสำนึกผิด ยอมมอบตัวทันทีหลังเกิดเหตุ อีกทั้งอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ญาติของผู้ต้องหายืนยันว่า เธอไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่เกิดจากความโกรธที่เห็นภาพชายคนรักเปลือยกายอยู่กับหญิงอื่นภายในห้องพัก
ฝ่ายภรรยาจับได้ว่าสามีเริ่มคุยกับหญิงอื่นตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ จึงโทรศัพท์ไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นด้วยตัวเองว่าให้เห็นใจ เพราะเธอกำลังท้อง 7 เดือน แต่อีกฝ่ายไม่มีการตอบรับใด ๆ กระทั่งวันเกิดเหตุ วรวรรIตามร่องรอยสามีไปถึงรีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งเธอเคยไปพักกับสามีมาก่อน จึงมั่นใจว่าทั้งสองอยู่ในห้องเดียวกัน
การลงมือครั้งนี้กินเวลาราว 5 นาที ทั้งตบ เตะศีรษะ และหน้าอกของผู้เสียชีวิตมีพยานระบุว่า ผู้ที่เข้าไปห้ามก็ถูกผลักออกมาเช่นกัน ส่วนฝ่ายชายไม่ได้เข้าไปช่วยใด ๆ โดยให้เหตุผลว่า “กลัวจะโดนทำร้าย เพราะรู้ว่าเมียตัวเองอารมณ์รุนแรง”
ด้านแม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติ เดินทางไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอรับศพของลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดปากบ่อ อ่อนนุช 35 ด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า เธอเล่าว่า ลูกสาวของเธอเพิ่งคุยกับฝ่ายชายได้เพียงสัปดาห์เดียว และยืนยันว่าลูกสาวไม่ใช่ “เมียน้อย” อย่างที่สังคมบางส่วนเข้าใจ
แม่ยังตั้งคำถามว่า เหตุใดฝ่ายชายจึงไม่ออกมาห้ามปรามหรือช่วยเหลือในช่วงเกิดเหตุ และเหตุใดเพื่อนของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง กลับยืนถ่ายคลิปโดยไม่เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกทำร้าย พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับลูกสาว
เพื่อนของผู้ตายกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนของเธอได้พูดกับฝ่ายชายหลายครั้งให้กลับไปคืนดีกับภรรยาเดิม แต่ฝ่ายชายยืนยันว่าเลิกกันแล้ว และเลือกที่จะคบกับผู้เสียชีวิตต่อ รู้สึกช็อกอย่างรุนแรงหลังเห็นคลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด ซึ่งเผยให้เห็นชัดว่าเพื่อนของเธอถูกทำร้ายด้วยมือเปล่าอย่างรุนแรงจนชัก ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในขณะที่สังคมยังคงถกเถียงกันถึงความเหมาะสมของคำว่า “เมียหลวง–เมียน้อย” สิ่งที่ชัดเจนคือ ไม่มีใครมีสิทธิ์ใช้ความรุนแรงกับใคร ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม คดีนี้สมควรเป็นบทเรียนสำคัญให้กับสังคม ถึงอันตรายของการใช้อารมณ์นำเหตุผล
ตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เมียหลวงไตวาย เสียชีวิต หลังเพิ่งไฟเขียวผัวให้คบกับสาวคนใหม่ได้
- เมียหลวงบุกสนามบิน ทวงผัวซุกกิ๊ก แต่กลับโดน ผอ.เมิน แถมด่าซ้
- เหนือชั้น เมียหลวงจับได้ ผัวนอนกับกิ๊กคาเตียง ไม่โวยวาย แต่พูดคำนี้ แห่ชื่นชม