อัยการเบรกดีเอสไอ ออกหมายจับ หม่อง ชิตตู ชี้หลักฐานน้อย ให้สอบเพิ่ม
พนักงานอัยการ เบรก ดีเอสไอ ออกหมายจับ หม่อง ชิตตู และพวก คดีค้ามนุษย์ชาวอินเดีย ชี้พยานหลักฐานน้อย แนะให้ไปสอบเพิ่ม
จากกรณี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำเจ้าหน้าที่และหลักฐานคดีค้ามนุษย์หารือกับนายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1 เพื่อออกหมายจับพ.อ.หม่อง ชิตตู, พ.ท.โมเต โธน และ พ.ต.ทิน วิน ผู้นำกองกำลัง BGF ซึ่งทำหน้าที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เนื่องจากผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ชาวอินเดีย 8 คนถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านคล้ายเคส “ซิง ซิง” นักแสดงชาวจีนก่อนหน้านี้
ล่าสุด (12 ก.พ.) มีรายงานว่าพนักงานอัยการได้ให้ความเห็นว่า “ดีเอสไอ” ควรไปสอบสวนและหาพยานหลักฐานให้มากกว่านี้ เนื่องจากหลักฐานที่นำมาหารือนั้น ยังไม่เพียงพอที่จะให้ศาลอนุมัติออกหมายจับได้ อีกทั้งคดีค้ามนุษย์ข้างต้นยังเป็นคดีนอกราชอาณาจักรอีกด้วย
ทั้งนี้พฤติการณ์ความผิดที่ดีเอสไอนำมาหารือกับพนักงานอัยการเพื่อขอออกหมายจับนั้น เป็นกรณีที่นางซาร่า ชาวปากีสถาน ได้หลอกให้นายจาเวิด อาวาวัสลี กับพวก รวม 8 คนมาทำงานเทเลมาร์เก็ตติงที่เมืองไทย ทว่าพอมาถึง กลับถูกพาตัวข้ามมาที่บ่อนเฮงเชง เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์แทน
จากนั้นพอกลุ่มผู้เสียหายทราบเรื่องว่าถูกหลอกมา จึงพยายามปฏิเสธและขัดขืน กลุ่มมิจฉาชีพจึงทำร้ายร่างกายด้วยการช็อตไฟฟ้าและกักขัง สุดท้ายผู้เสียหายจึงติดต่อให้ญาติโอนเงินไถ่ตัวและได้รับอิสรภาพในที่สุด ฝั่งดีเอสไอจึงทำการช่วยเหลือและดำเนินการหารือประเด็นขอออกหมายจับข้างต้นในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดประวัติ หม่อง ชิตตู่ ผู้นำ KNA อดีตหัวหน้า DKBA
- DSI จ่อออกหมายจับ หม่องชิตตู และพวก เซ่นคดีค้ามนุษย์-คอลเซ็นเตอร์
- คำสั่งฟ้าผ่า! จ่อย้ายข้าราชการระดับสูงของไทย พัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์