สถานการณ์ระบาดของโรคลึกลับในจังหวัดควังโกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกทวีความรุนแรง รัฐบาลเร่งส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ หวั่นเชื่อมโยงโรคติดเชื้ออันตราย
วันที่ 5 ธันวาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์โรคลึกลับในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DR Congo) ยังคงสร้างความกังวลอย่างมาก หลังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79 รายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือหมู่บ้านพานซี จังหวัดควังโก ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
โรคลึกลับนี้ถูกพบครั้งแรกในปลายเดือนตุลาคม และในช่วงวันที่ 10-25 พฤศจิกายน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 รายในพื้นที่เดียว ส่งผลให้ยอดรวมการเสียชีวิตจากโรคนี้ในจังหวัดควังโกพุ่งสูงถึง 79 ราย
อาการที่พบในผู้ป่วย ได้แก่ ไข้สูง ปวดศีรษะ ไอ และภาวะโลหิตจาง บางรายเสียชีวิตจากปัญหาทางเดินหายใจ และบางรายเสียชีวิตเนื่องจากขาดการถ่ายเลือด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ซามูเอล คัมบา โรเจอร์ กล่าวว่า โรคนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ในคองโก เช่น ฝีดาษลิง (mpox) หรืออีโบลา
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายลง รัฐบาลคองโกได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาลงพื้นที่ เพื่อเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยและส่งไปวิเคราะห์ยังสถาบันวิจัยชีวการแพทย์แห่งชาติ (INRB) ขณะเดียวกัน ได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการชุมนุมขนาดใหญ่ ปฏิบัติตามแนวทางสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด และรายงานกรณีผู้ป่วยที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับโรคนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) ได้ให้การสนับสนุนทีมผู้เชี่ยวชาญของคองโก DR Congo โดยได้ส่งทีมงานลงพื้นที่และร่วมดำเนินการสอบสวนโรค พร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์ลักษณะของโรคในห้องปฏิบัติการ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคระบาดในคองโกไม่ใช่เรื่องใหม่ ประเทศนี้มีประวัติยาวนานในการเผชิญหน้ากับโรคระบาดหลายชนิด รวมถึงอีโบลาซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องอัตราการเสียชีวิตที่สูงและการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แม้ปัจจุบันคองโกยังคงรับมือกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง ซึ่งในปี 2024 มีรายงานผู้ป่วยที่สงสัยมากถึง 47,000 ราย และผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย
โรคฝีดาษลิง แม้จะมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าอีโบลา แต่ก็สร้างความกังวลต่อการแพร่กระจายในบางภูมิภาคของแอฟริกา ส่วนอีโบลา ยังคงเป็นภัยคุกคามสำคัญ โดยการระบาดมักส่งผลกระทบหนักต่อชุมชนที่เปราะบาง
ในขณะนี้ โรคลึกลับที่ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ยังคงสร้างความกังวลอย่างมากในหมู่ประชาชนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ความร่วมมือระหว่างประเทศและการตรวจสอบที่รวดเร็ว อาจเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมสถานการณ์และป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม
สถานการณ์ในจังหวัดควังโก ยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด การตอบสนองของทั้งรัฐบาลและหน่วยงานระหว่างประเทศในการวินิจฉัยและควบคุมการแพร่ระบาด จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ชี้ชะตาว่าประเทศนี้จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตโรคลึกลับครั้งนี้ได้หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หมอมนูญ คลายห่วง โควิด-19 ลดความรุนแรงลง อาการไม่หนักเท่า 3-4 ปีก่อน
- รวมพิกัด พื้นที่เสี่ยง กทม. พิษสุนัขบ้า ระบาดหนัก บอกวิธีป้องกัน สังเกตสัตว์ติดเชื้อ
- กินผักสดระวัง! หมอมนูญ เผยเคส ชายป่วยฝีในตับจากพยาธิใบไม้
ข่าวล่าสุด
