ศาลพิพากษาจำคุก ผู้บริหารบริษัทกลางดง 2 ปี 6 เดือน คดีฝังกลบสารเคมี
ศาลพิพากษาจำคุก 2 ผู้บริหารบริษัทกลางดง 2 ปี 6 เดือน คดีฝังกลบสารเคมี เมื่อปี 64 หวั่นเป็นอันตรายกับประชาชน ไม่รอลงอาญา
จากกรณี เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 64 กรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งความดำเนินคดี กับ บริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขากลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลักลอบฝังกลบสารเคมี เข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามเทศบัญญัติเทศบาลตำบลสีมงคล กลางดง รวมระยะเวลามา 4 ปี เศษ
ล่าสุดนายวิโรจน์ ศรีสังข์ นายกเทศมนตรีตำบลสีมามงคล ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีฯ นางจินดา เตชะศรินทร์ ผอ.กองกฎหมาย กรมโรงงานอุตสาหกรรม นายธนัญชัย วรรณสุข ผอ.สนง. สิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา นายวิโรจน์ ศรีสังข์ นายกเทศมนตรีตำบลสีมามงคล พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เดินทางไปที่ศาลจังหวัดสีคิ้ว(ปากช่อง )จ.นครราชสีมา เพื่อฟังคำพิพากษา
กรณีเมื่อวันที่ 19 มี.ค .64 ได้แจ้งความดำเนินคดี กับ บริษัท เอกอุทัย จำกัด สาขากลางดง จำเลยที่ 1 นางวราลี จำเลยที่ 2 ที่ สภ.กลางดง กรณีลักลอบฝังกลบสารเคมี 2 ข้อหา คือ 1.การประกอบกิจการโรงงานบริษัท เอกอุทัย จำกัด เข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามเทศบัญญัติเทศบาลตำบลสีมงคล เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2561 และ 2.การประกอบกิจการโรงงานของ บริษัท เอกอุทัย จำกัด เข้าข่ายเป็นความผิดฐานครอบครองของเสียเคมีวัตถุประเภทที่ 3 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดย ศาลพิพากษา จำเลยกระทำความผิดจริง จึงพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1 บริษัท เอกอุทัย จำกัด ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ครอบครองวัตถุอันตราย ชนิด ที่ 3 ปรับ 200,000 บาท จำคุก น.ส.วราลี กิจสะอาด จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 2 ปี และ กระทำความผิด พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ปรับจำเลยที่ 1 บริษัท เอกอุทัย จำกัด เป็นเงิน 50.000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 น.ส.วราลี กิจสะอาด เป็นเวลา 6 เดือน รวม ปรับ จำเลยที่ 1 บริษัท เอกอุทัย จำกัด 250.000 บาท จำคุก จำเลยที่ 2 น.ส.วราลี กิจสะอาด เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน ต่อมา น.ส.วราลี จำเลยที่ 2 ได้ยื่นเงินสด 70.000 บาท ต่อศาลฯ เพื่อขอประกันตัวชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว
ซึ่งนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าว ถึงแม้ว่าจะเป็นอัตราโทษสูงสุด แต่สังคมก็มองว่าอัตราโทษยังเบามาก โดยเฉพาะโทษปรับ 2 แสนนั้น ไม่ทำให้ผู้ลักลอบทิ้งกากสารเคมี หวาดกลัว หรือเข็ดขยาดแต่อย่างใด รมว.อุตสาหกรรมคนปัจจุบัน จึงระบุว่าได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อสังคายนา กฎหมายเหล่านี้ใหม่ และประชาชนยังหวาดผวา น้ำบาดาลที่ดูดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน เพื่อนำมาใช้อุปโภค บริโภค อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตในระยะยาว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อ.เจษฎา แนะวิธีปฐมพยาบาล ถอนพิษเห็ด ย้ำชัด เอาดินฝังกลบคน “ไม่ช่วยดูดพิษ”
- ช็อก พบสารเคมีกว่า 3,600 ชนิดในร่างกายมนุษย์ คาดปนเปื้อนมากับบรรจุภัณฑ์
- คลิปใหม่ ‘สุขชาวบ้าน’ เยือนบ่อลักลอบทิ้งขยะ สารเคมีเกลื่อน อันตรายเหมือนหนังซอมบี้