กระทรวงการคลัง เปิดไทม์ไลน์แจกเงินดิจิทัล 10,000 ทั้ง 3 กลุ่ม โดยวันลงทะเบียน-วิธีการรับเงินแตกต่างกัน เช็กให้ชัวร์ก่อนพลาดสิทธิ์ ใครได้เงินก่อน-หลัง ตรวจสอบข้อมูลได้ที่นี้
ความคืบหน้าล่าสุดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มแรกที่จะได้รับเงินคือ กลุ่มเปราะบาง ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า หลังจากดำเนินการแจกจ่ายเงินให้กับเฟสแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะดำเนินการในเฟสที่ 2 ต่อ แต่คาดว่าไม่น่าจะทันภายในปี 2567
ทั้งนี้จะต้องดูเงื่อนไขอื่น ๆ ประกอบกันด้วย ส่วนเฟสที่ 2 นั้นจะได้รับเงินดิจิทัลเป็นเงินสดหรือไม่ ต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ควบคู่กัน รวมถึงความพร้อมของช่องทางการจ่ายดิจิทัลด้วย หลังจากการตรวจสอบรายชื่อของกลุ่มเปราะบางพบว่ามีจำนวนประมาณ 14.2 ล้านเศษ ใช้งบประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยเคาะแล้วว่าจะได้เงินก้อนแรกในวันที่ 25 – 30 ก.ย. 67
ทีมงานเดอะไทยเกอร์ได้รวบรวมวันประกาศผล ผู้ได้สิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเปราะบาง กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน และกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
เงื่อนไขผู้ที่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000
1. ประชาชนที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
2. สัญชาติไทย
3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 ก.ย. 67)
4. เป็นผู้ที่มีไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูล ผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ
5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท โดยเงินฝากดังกล่าวหมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยตรวจสอบทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่
- เงินฝากกระแสรายวัน
- เงินฝากออมทรัพย์
- เงินฝากประจำ
- บัตรเงินฝาก
- ใบรับฝากเงิน
- ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อ (1) – (5)
6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
กลุ่มเปราะบาง
สำหรับกลุ่มเปราะบางไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากรัฐบาลจะดึงข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาใช้ ฉะนั้นสามารถรอรับเงินได้ทางบัญชีได้โดยตรง โดยมีไทม์ไลน์การแจกเงิน และวิธีการกดเงินสด ดังนี้
เช็กสิทธิผ่านแอปรัฐจ่าย
ภาครัฐเปิด 5 ช่องทางตรวจสอบเงินรับเงินสวัสดิการแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อเช็กว่าตนอยู่ในกลุ่มรับเงิน 10,000 บาทดังกล่าวหรือไม่ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นไป ผ่านระบบออนไลน์ ดังนี้
1. เว็บไซต์ : https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th (เข้าได้วันที่ 24 ก.ย.)
2. เว็บไซต์ : ระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม
3. เว็บไซต์ : ระบบการให้บริการข้อมูลคนพิการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (เฉพาะคนพิการ)
4. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
5. แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
ไทม์ไลน์แจกเงิน 10,000 บาท กลุ่มเปราะบาง
- วันที่ 25 ก.ย. กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้พิการ 2.1 ล้านคน และผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 0
- วันที่ 26 ก.ย. ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 1 , 2 , 3
- วันที่ 27 ก.ย. ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 4 , 5 , 6 , 7
- วันที่ 30 ก.ย. ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขหลังบัตรประชาชน 8 , 9
กลุ่มเปราะบาง กดเงินสดยังไง
ทางภาครัฐจะจ่ายเป็น “เงินสดโอนเข้าบัญชีโดยตรง” ให้กับผู้มีสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยโอนเงินเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ที่เชื่อมเลขบัตรประชาชน โดยแบ่งเป็นวันดังนี้
กลุ่มเปราะบางได้รับเงินในรูปแบบของเงินสด ฉะนั้นสามารถนำไปใช้จ่ายสิ่งใดก็ได้ โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อกำหนด เพียงแต่ต้องนำไปใช้จ่าย เพื่อให้กระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ตามความตั้งใจแรกของรัฐบาล
กลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน
สำหรับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ได้ถึงวันที่อาทิตย์ที่ 15 ก.ย. 67 ประชาชนสามารถเช็กวิธีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้ ตามรายละเอียด ดังนี้
วิธีการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล
1. ขั้นเริ่มต้นให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ : https://play.google.com/store/apps
- ระบบปฏิบัติการไอโอเอส : https://apps.apple.com/th/app/
2. จากนั้นเข้าแอปฯ เพื่อกดปุ่ม “ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ”
3. อ่านรายละเอียดเงื่อนไขผู้ได้รับสิทธิ์และดำเนินการต่อ
4. กดยอมรับเงื่อนไข
5. กรอกเลขบัตรประชาชนและเลขหลังบัตรฯ จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อเข้าสู่ระบบยืนยันอัตลักษณ์ (e-KYC) สแกนใบหน้าต่อไป
6. หากลงทะเบียนเรียบร้อย ระบบจะให้เรากำหนดบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านของแอปฯทางรัฐต่อไป จากนั้นกดปุ่มยืนยันและตั้ง Pin Code ได้เลย
ขั้นตอนการยืนยันตัวตน
1. เข้าแอปพลิเคชันทางรัฐจากนั้นกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะ” ที่หน้าแรก
2. กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดรับรหัส OTP ทาง SMS เพื่อกรอกยืนยันต่อไป
3. กดอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบุคคล
4. อ่านและกดยอมรับเงื่อนไข
5. รอการตรวจสอบผลการยืนยันตัวตนต่อไปในวันที่ 22 ก.ย. 67
ประกาศผลคนได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท วันไหน
ตรวจสอบผลการรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนเป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ กรณีที่ไม่ได้รับสิทธิ สามารถแจ้งเหตุผล ยื่นอุทธรณ์ได้
อัปเดตล่าสุด : เลื่อนไม่มีกำหนด วันประกาศผลลงทะเบียน เงินดิจิทัล 1 หมื่น แอปฯ ทางรัฐ คลิกอ่าน
6 วิธีตรวจสอบสถานะการรับสิทธิ
1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ ทำการเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะ”
2. ระบบจะขออนุญาติเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้ท่านกดปุ่ม “ยืนยันข้อมูล”
3. กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่ม รับรหัสทาง SMS (OTP)
4. กรอกรหัส OTP และกดปุ่ม “ยืนยันโทรศัพท์มือถือ”
5. จากนั้นกดปุ่ม “อนุญาต” ให้แอปฯ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
6. ระบบจะแสดงผลว่า สถานะในการรับสิทธิ ตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของท่าน อยู่ในขั้นตอนใด
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือ ระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
ระบบอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของผู้ลงทะเบียนกับหน่วยงานของเจ้าของข้อมูลตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ ตามที่คณะกรรมการ นโยบาย และคณะอนุกรรการกำกับฯ กำหนด
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือ ท่านไม่ได้รับสิทธิ
ระบบทำการประมวลแจ้งข้อมูลผู้สมัคร ว่าข้อใดที่ไม่ตรงกับเงื่อนไขประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถขอทบทวนสิทธิกับหน่วยงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์ก่อนกำหนดการบนแอปฯ ทางรัฐอีกครั้ง ก่อนวันปิดลงทะเบียน 15 ก.ย. 67 ตามขั้นตอนดังนี้
- กรณีข้อมูลส่วนบุคคลไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์
- หากระบบแสดงผลว่า “ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์” ให้กดปุ่ม กรอกข้อมูลอีกครั้ง
- แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามบัตรประชาชนแล้วกด แก้ไขข้อมูล
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องกรอกเลขหลังบัตรประชาชนแล้วกด ยืนยันการสมัครอีกครั้ง
2. กรณีรูปถ่ายใบหน้าไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลกับทะเบียนราษฎร์
- หากระบบแสดงผลว่า “รูปถ่ายใบหน้าไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลกับทะเบียนราษฎร์” ให้กดปุ่ม สแกนใบหน้าอีกครั้ง
- อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกดปุ่ม เริ่มสแกนใบหน้า
- จัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด ระบบจะประมวลผลการสแกนใบหน้าของท่าน
3. กรณีข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใบหน้าไม่ตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์
- หากระบบแสดงผลว่า “ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใบหน้าไม่ตรงกับงานข้อมูลทะเบียนราษฎร์” ให้กดปุ่ม สแกนใบหน้าอีกครั้ง
- แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน แล้วกด แก้ไขข้อมูล
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง กรอกเลขหลังบัตรประชาชนแล้วกด ยืนยันการสมัครอีกครั้ง
- อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกดปุ่ม เริ่มสแกนใบหน้า
- จัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบที่กำหนด ระบบประมวลผลการสแกนใบหน้าของท่าน
หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือ ท่านได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
หลังจากดำเนินการจนมาถึงขั้นตอนที่ 5 แล้ว ประชาชนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 67 กรณีที่ไม่ได้รับสิทธิ สามารถแจ้งเหตุผล ยื่นอุทธรณ์ได้
เฟส 2 ได้รับเงินสด หรือเงินดิจิทัล
สำหรับเฟสที่ 2 ตามไทม์ไลน์เดิมจะจะใช้งบประมาณปี 68 แจกให้กับประชาชนที่เหลือทั้งหมด โดยอาจทยอยจ่ายเป็น 2 งวด งวดละ 5,000 บาท มีรายละเอียดดังนี้
- งวดแรก จ่ายคนละ 5,000 บาท หากช่วงนั้นระบบดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อาจจะแจกจ่ายเป็นเงินสด
- งวดที่ 2 จ่ายเพิ่มอีก 5,000 บาท ถ้าระบบการจ่ายเงินสำเร็จ จะเปลี่ยนมาแจกเงินผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตแทน
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามตความหน้าที่แน่ชัดจากรัฐบาลอีกครั้งว่าจะแจกจ่ายในช่วงเวลาใดและแจกจ่ายเงินในรูปแบบไหน
กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์โฟน ลงทะเบียนวันไหน ใช้เอกสารใดบ้าง
สำหรับ ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 67 โดยต้องเตรียม “บัตรประจำตัวประชาชน” มาเป็นหลักฐานยืนยันตัวตน และลงทะเบียนได้ที่สถาบันการเงินของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ รวม 2,500 สาขา ทั่วประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้อข้องใจ ดิจิทัล 10,000 บาท บัตรปชช. หมดอายุ ยังได้เงินไหม?
- 3 วันสุดท้าย ลงทะเบียนเงินดิจิทัล ก่อนถูกตัดสิทธิ ชวดเงินหมื่น
- อ้าว! 30 ล้านคน ลงทะเบียนเงินดิจิทัล อาจชวด 10,000 บาท