เพื่อนๆ ทุกคน เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมบางคนดูเหมือนชีวิตไม่ค่อยก้าวหน้า ทั้งๆ ที่พยายามแล้ว? ทำงานมานานเงินเดือนไม่ขึ้น คบแฟนกี่คนก็เลิก ไม่ค่อยมีเพื่อนที่จริงใจ บางทีอาจเป็นเพราะพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำโดยไม่รู้ตัวนี่แหละ ที่เป็นตัวถ่วงความสำเร็จของเราอยู่
มาดูกันดีกว่าว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่เราควรเลิกทำ ถ้าอยากให้ชีวิตดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
1. ผัดวันประกันพรุ่ง ศัตรูตัวฉกาจของความสำเร็จ
ใครเคยบ้าง ผัดวันประกันพรุ่ง ค่อยทำพรุ่งนี้น่า ยังมีเวลาทัน รู้ไหมเป็นนิสัยที่อันตรายมาก มันทำให้เราพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปเยอะเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน สุขภาพหรือแม้แต่ความรัก
ลองนึกดูสิ ถ้าเราผัดวันประกันพรุ่งเรื่องออมเงิน อีกกี่ปีเราถึงจะมีเงินก้อนโต? หรือถ้าเราผัดวันประกันพรุ่งเรื่องออกกำลังกาย สุขภาพเราจะเป็นยังไง? แทนที่จะรอให้มีเวลาว่างเยอะๆ แล้วค่อยทำทีเดียว (ซึ่งมักจะไม่มีวันนั้นมาถึง) ลองแบ่งงานใหญ่เป็นงานเล็กๆ แล้วทำทีละนิด วันละนิดดูสิ รับรองว่าจะเห็นผลเร็วกว่าที่คิด
2. ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ทางลัดสู่ความทุกข์
เชื่อเถอะว่าการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากจะทำให้เราทุกข์ใจเปล่าๆ ยิ่งในยุคโซเชียลมีเดีย เราเห็นแต่ด้านที่สวยหรูของชีวิตคนอื่น แต่ไม่เห็นความยากลำบากที่เขาต้องฝ่าฟันมา รู้ไหมว่าถ้าอยากรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ลองเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีตดูสิ เราพัฒนาขึ้นแค่ไหนแล้ว มีอะไรที่เราทำได้ดีขึ้นบ้าง นี่แหละคือการเปรียบเทียบที่มีประโยชน์จริงๆ
3. ใช้เงินเกินตัว บ่อนทำลายอนาคตทางการเงิน
ใครชอบช้อปจนเงินหมดตลอดบ้าง โดยเฉพาะสั่งของออนไลน์ ง่ายเพียงปลายนิ้ว การใช้เงินเกินตัไม่เพียงแต่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บ แต่บางคนถึงขนาดต้องหยิบยืมจนเป็นหนี้อีก ไม่เคยคิดเลยว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เราจะทำยังไง
ลองเริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่ายดูสิ แล้วตั้งเป้าหมายการออมแบบ 50/30/20 (50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น, 30% สำหรับสิ่งที่อยากได้, 20% สำหรับการออมและการลงทุน) รับรองว่าชีวิตจะสบายขึ้นแน่นอน
4. ไม่ดูแลสุขภาพ ยากจนทางร่างกายและจิตใจ
หลายคนมักคิดว่า “ฉันยังไม่แก่ ไม่เป็นไรหรอก” แต่จริงๆ แล้ว การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ลองคิดดูสิว่าถ้าเราป่วย เราจะทำงานได้เต็มที่ไหม หรือถ้าเรามีปัญหาสุขภาพจิต เราจะมีความสุขในความสัมพันธ์ได้อย่างไร
เริ่มจากเรื่องง่ายๆ เลยนะ นอนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากขึ้น และลองออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งดู แค่นี้ก็เห็นผลแล้ว ยิ่งรักษาสุขภาพให้ดีตั้งแต่เด็ก แก่ตัวไปร่างกายจะสร้างสุขให้คุณมากขึ้นแน่นอน
5. ไม่กล้าลองสิ่งใหม่ๆ ความกลัวที่ขัดขวางการเติบโต
การยึดติดกับ comfort zone อาจทำให้เรารู้สึกปลอดภัย แต่ก็จำกัดโอกาสในการเติบโตของเราด้วย ถ้าเราไม่กล้าเสี่ยงสมัครงานใหม่ ไม่กล้าเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือไม่กล้าเปิดใจให้ความรักใหม่ ชีวิตเราจะน่าเบื่อและจืดชืดมาก
อยากให้ลองเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อนนะ เช่น ทานอาหารแปลกใหม่ ไปเที่ยวที่ที่ไม่เคยไป หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ทีละนิด การท้าทายตัวเองบ้างจะช่วยให้เราเติบโตได้มากขึ้นเชียวล่ะ
6. ไม่รู้จักจัดการอารมณ์ บ่อนทำลายความสัมพันธ์
ต้องมีสักครั้งน่าที่เราโมโหจนพูดอะไรจนทำร้ายคนรัก บางคนเลยเถิดจนเสียความสัมพันธ์ การไม่รู้จักจัดการอารมณ์เป็นสิ่งที่ทำร้ายทั้งตัวเราและคนรอบข้าง มันอาจทำให้เราเสียโอกาสในหน้าที่การงาน หรือทำลายความสัมพันธ์ที่มีค่าได้ ลองฝึกสติดูนะ รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง และหาวิธีระบายอารมณ์ที่ไม่ทำร้ายใคร เช่น ออกกำลังกาย เขียนไดอารี่ หรือพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ รับรองว่าชีวิตจะดีขึ้นแน่นอน
7. ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด โอกาสทองในการพัฒนาตัวเอง
ทุกคนทำผิดพลาดได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียนรู้จากมัน การยึดติดกับความผิดพลาดในอดีตหรือโทษคนอื่นตลอดเวลา จะทำให้เราไม่มีวันก้าวหน้า เพราะเราไม่ได้นำบทเรียนมาปรับปรุงตัวเอง ลองมองความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้ดูสิ ถามตัวเองว่า “ฉันได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้บ้าง?” และ “ฉันจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต?” นี่แหละคือวิธีที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดได้จริงๆ
เห็นไหมล่ะว่า บางทีสิ่งที่ขัดขวางความสำเร็จของเราอาจเป็นนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำโดยไม่รู้ตัว การตระหนักรู้และพยายามปรับปรุงตัวเองทีละนิด จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นได้แน่นอน
แล้วเธอล่ะ มีพฤติกรรมไหนที่อยากเปลี่ยนแปลงบ้าง? ลองเริ่มวันนี้เลย อย่าผัดวันประกันพรุ่งนะ