แม่ร้องสื่อ ลูกสาวถูกเด็กชายเตะก้านคอ 3 ที โมโหไม่ยอมแบ่งขนมให้ จนอาเจียนต่อเนื่อง เจ็บหน้าอก เข้าโรงพยาบาล 2 ครั้งก็ยังรักษาไม่หาย
นางเอื้องคำ อายุ 38 ปี ชาวตำบลอีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ป.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ออกมาร้องความเป็นธรรม ภายหลังจากที่ ลูกสาวถูกเพื่อนักเรียนชาย ห้องเดียวกันเตะก้านคอ 3 ครั้ง จนมีอาการบวมช้ำที่ลำคอ เจ็บหน้าอก และอาเจียน ต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.ถึง 2 รอบแต่ก็ยังไม่หาย หมอบอกเป็นผลข้างเคียงต้องติดตามอาการและรักษาอย่างต่อเนื่อง
โดยผู้เป็นแม่เล่าว่า เมื่อวันศุกร์ ที่ 2 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ช่วงเลิกเรียน ลูกสาว อายุ 10 ขวบ เดินร้องไห้กลับมาบ้าน ตนก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นลูกสาวบอกว่า ถูกเพื่อนนักเรียนชายห้องเดียวกัน เตะก้านคอ ช่วง 16.30 ระหว่างเลิกเรียน ลูกสาวนั่งกินขนมอยู่ในห้องเรียนชั้น ป.4 เพื่อนในห้อง มาขอขนมกิน แต่ลูกสาวไม่ให้ เพื่อนก็เลยเตะลูกสาวจากนั้นลูกสาวก็เลย ผลักเขาคืน กระเป๋าเสื้อของเขาขาด จากนั้นเขาก็เตะที่คออีก 2 ครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง ตนก็พาลูกไปหาหมอในวันศุกร์ และนอนโรงพยาบาล 1 คืน จากนั้นลูกกลับมาในวันเสาร์ก็มีอาการอาเจียนเจ็บหน้าอก ตนก็รีบพาลูกไปหาหมออีกครั้งแต่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติได้ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลนางรองและนอนที่โรงพยาบาลนางรอง 1 คืน เพื่อตรวจสแกนสมอง ตอนนี้ต้องใช้อุปกรณ์ดามคอไว้ ในขณะเดียวกันลูกก็มีอาการอาเจียนและเจ็บคอต้นคอตลอด
ซึ่งทางผู้ปกครองคู่กรณีไม่เคยไปเยี่ยมที่ รพ.เลย แต่มาไกล่เกลี่ยบอกจะจ่ายเยียวยาให้แค่ 2 พันบาท ตนไม่ขอรับเพราะไม่รู้ว่าลูกจะมีผลข้างเคียงยังไงบ้างจึงให้พ่อไปแจ้งความไว้ หากเขาไม่ดูแลก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย
ขณะที่ทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเอง โดยทางผู้ปกครองของนักเรียนชายที่ก่อเหตุเสนอจะให้เงินเยียวยา 2,000 บาท ทั้งบอกว่าถ้าจะให้เยียวยามากกว่านั้นก็ต้องไปแจ้งความหรือฟ้องเอาเอง ทางผู้ปกครองนักเรียนหญิงที่ได้รับบาดเจ็บจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ และได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อเพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของเด็กชายคนดังกล่าว และได้พบกับตาของเด็ก บอกว่า หลานชายก็มาเล่าบอกได้เตะก้านคอเพื่อนจริง เพราะเพื่อนไม่ยอมแบ่งขนม แต่เพื่อนผลักคืนจนกระเป๋าเสื้อขาดหลานก็โมโหเตะซ้ำไปอีก ก็ยอมรับว่าหลานทำจริง ก็พยายามจะเยียวยาเขา แต่เขาไม่รับก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะหลานก็ยังเด็ก แต่ถ้าเขาแจ้งความก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ขณะที่ทาง ผอ.รร. ไม่อนุญาตให้ข้อมูลและให้บันทึกภาพใดๆ ในโรงเรียน บอกแค่ว่าเป็นเรื่องของผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเอง
