แฟชั่นและความงามไลฟ์สไตล์

แจกฟรี Personal Color โทนสีเปลี่ยนชีวิต เจาะบุคลิกที่ใช่ให้หน้าไม่ดรอป

เช็ก Personal Color test ตัวช่วยที่ทำให้คุณแต่งตัวได้ปัง ไม่พังแน่นอน จากโทนสีสะท้อนตัวตนที่แท้จริง ตามหาสีโทนอุ่นและโทนเย็นที่เข้ากับผิวด้วยการหา Base Color

สังเกตไหมว่าเวลาแต่งตัวเราหยิบเสื้อผ้าสีไหนบ่อยที่สุด บางคนขาว บางคนดำ บางคนแต่งสีสันจัดเต็ม แน่นอนว่าเราเลือกจากความมั่นใจ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับสีผิว หรือ Personal Color ของเราต่างหากที่ทำให้เสื้อผ้าสีนั้นกลายเป็นเซฟโซนโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเฉดสีผมและเมคอัพที่เหมาะกับเราได้ด้วย

ความสำคัญของการแต่งตัวหรือย้อมผมตามโทนสีประจำตัวจะช่วยขับให้ใบหน้าและสีผิวสว่างขึ้น ดูไม่โทรม ที่สำคัญเป็นเครื่องมือในการสร้างบุคลิกและภาพจำของเราผ่านจิตวิทยาสีอีกด้วย อยากรู้รึยังว่า Personal Color ของตัวเองคือโทนอะไร ไปเช็กกันเลย

Personal Color 4 ฤดูกาล
ภาพจาก : whenews

รู้จัก Personal Color โทนสีเปลี่ยนชีวิต

เริ่มกันที่ Base Color แบ่งออกเป็น 2 โทนสีหลัก ได้แก่ Yellow Base หรือ สีโทนอุ่น (Warm Tone) และ Blue Base สีโทนเย็น (Cool Tone) ซึ่งแต่ละโทนจะแบ่งย่อยออกเป็น 2 ฤดูกาลเพื่ออธิบายคาแรกเตอร์ของบุคคลนั้น ประกอบด้วย

  • Yellow Base : Spring และ Autumn (เหลือง ส้ม แดง น้ำตาล เขียว)
  • Blue Base : Summer และ Winter (ม่วง ฟ้า น้ำเงิน ชมพู เทา)

นึกภาพง่าย ๆ เวลาเราแต่งหน้าจะได้ยินคำว่าสีโทนเหลือง โทนส้ม โทนชมพูอยู่บ่อย ๆ นั่นเป็นเพราะว่าการใช้โทนสีเมคอัพที่เหมาะกับสีผิวของเราจะช่วยให้หน้าไม่หมองคล้ำเหมือนโดนราหูอมนั่นเอง

วิธีทดสอบ Personal Color ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการหา Personal Color test ไม่ยากเลย มีเพียงเส้นเลือดบนข้อมือ สีผม สีตาจริง สีผิวหลังออกกำลังกายหรือโดนแดด และเครื่องประดับเงินทองที่หาได้ พร้อมแล้วทำตามนี้เลย

1.เส้นเลือดบนข้อมือ

หากเส้นเลือดมีโทนสีเขียว แปลว่า Base Color ของเราจัดอยู่ใน Yellow Base แต่ถ้าเส้นเลือดมีโทนสีฟ้าหรือสีม่วง แปลว่า Base Color ของเราจัดอยู่ใน Blue Base นั่นเอง

เช็กPersonal colorจากเส้นเลือดบนข้อมือ

2. สีผมและสีตาจริง

คนที่มีสีผมและสีตาจริงเป็นสีดำสนิทตั้งแต่เกิด แปลว่าเราจัดอยู่ใน Blue Base แต่เมื่อผมและตาสีดำโดนแดดแล้วออกเป็นโทนสีน้ำตาลหรือเฉดอื่นที่ไม่ใช่สีดำ แปลว่าเราจัดอยู่ในโทน Yellow Base

สีตาและสีผมธรรมชาติ เช็ก Personal Color

3. สีผิวหลังออกกำลังกายหรือโดนแดด

สำหรับคนที่ออกกำลังกายหรือเจอแดดร้อนแล้วผิวหน้าผิวตัวเป็นสีแดงหรืออมชมพู แปลว่าเป็น Blue Base แต่ถ้าออกกำลังกายแล้วหน้าเป็นสีแดงเข้ม ๆ รวมถึงโดนแดดแล้วผิวดูหมองคล้ำทันทีแปลว่าเป็น Yellow Base แน่นอน

หน้าแดงหลังออกกำลังกาย
ภาพจาก : poydtreechada

4.  เทียบกับเครื่องประดับเงินและทอง

ไม่รู้ว่ามีใครเคยสังเกตไหมว่า ตัวเองใส่เครื่องประดับอันไหนแล้วขึ้นกว่า ยกตัวอย่างเช่น ใส่สีเงินผิวดูไบร์ทขึ้น เอาแขนทาบแล้วรู้สึกว่าทำให้แขนขาว ใส่แหวนเงินแล้วข้อนิ้วไม่ดำคล้ำ แปลว่าอยู่ใน Blue Base ชัดเจน

ส่วนใครที่ปกติติดใส่เครื่องประดับสีทอง ลองทาบดูแล้วผิวใสมากกว่า ไม่ดูหม่นหมองมืดดำ แปลว่าเรามีผิวโทน Yellow Base นั่นเอง

เครื่องประดับเงินทอง

เลือกโทนสีประจำตัวจาก 4 ฤดูกาล

มาถึงขั้นตอนนี้อย่าเพิ่งท้อนะคะ เพราะเราจะมานิยามตัวเองตามโทนสีของแต่ละฤดูกาลกัน บอกเลยว่าได้ประโยชน์มาก เมื่อเราเจอสีที่ใช่ไม่ว่าเราเลือกสีเสื้อผ้า เมคอัพ เครื่องประดับ สีเล็บ หรือสีผมแบบไหนก็จะส่งให้เราดูดี โดดเด่นเข้ากับเรามากที่สุด มี 2 โทนใน 4 ฤดูกาลดังนี้

1.Blue Base 

  • Winter หรือ ฤดูหนาว เหมาะกับคนผมเข้ม ตาดำแต่กำเนิด ใส่สีดำ สีม่วงเข้ม น้ำเงินเข้ม เหลืองเข้มแล้วขึ้นเป็นพิเศษ เหมาะกับสีชัด ๆ ไม่เจือสีอื่น นึกภาพง่าย ๆ คือสีที่อยู่ในวงล้อแม่สีนั่นแหละ
  • Summer หรือ ฤดูร้อน เน้นสีพาสเทสทั้งหมด ไม่ว่าจะชมพู ม่วง ส้ม เหลือง ฟ้า ต้องเป็นสีอ่อน ๆ บาง ๆ เป็นคนอ่อนหวาน คาแรกเตอร์ความนเรียบร้อยพุ่งออกมาเลยสำหรับคนโทนนี้

Personal Color 4 ฤดูกาล

2. Yellow Base ประกอบด้วย 2 โทน ได้แก่

  • Spring หรือ ฤดูใบไม้ผลิ คนโทนนี้โดนแดดแล้วผิวกลับมาสภาพเดิมง่าย คล้ำไม่นาน บุคลิกเป็นคนสดใส ร่าเริง คล่องแคล่วว่องไว พูดจาฉะฉาน สร้างเสียงหัวเราะเก่ง
  • Autumn หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ให้นึกถึงแนว Earth Tone สีน้ำตาล ส้มอิฐ อะไรทำนอนนั้น คนโทนนี้ออกแดดนาน ๆ แล้วผิวเข้มขึ้นนานกว่า Spring ส่วนบุคลิกเป็นคนมั่นใจ พูดจากตรงไหนตรงมา เชื่อมั่นใจตัวเอง ท่าทางสุภาพ สง่างาม
ทริคเลือกเสื้อผ้า เช็ก Personal Color
ภาพจาก : Uniqlo Thailand

แถมทริคเลือกสีเสื้อผ้าง่าย ๆ ถ้าเดินไปเจอเสื้อผ้าที่ถูกใจ อยากรู้ว่าใส่แล้วรอดหรือร่วง ให้ลองน้ำเสื้อมาทาบตัว ให้สีเสื้อสะท้อนขึ้นหน้า จากนั้นดูว่าหน้าเราหมองหรือกระจ่างใสมากกว่ากัน หรือส่องกระจกแล้วต้องให้เราเด่นกว่าเสื้อ อย่าให้เสื้อเด่นกว่าหน้าถ้าเสื้อเด่นแปลว่าเราใส่แล้วดรอป ปัดตกได้เลย ส่วนเมคอัพ แนะนำให้ลองทาลิปสติกดู หากทาแล้วหน้าแก่ สีปากเด่นกว่าเปลี่ยนอันได้เลย ลองไปทำตามกันดูน้า

อย่างไรก็ตามศาสตร์แห่งสีเป็นเรื่องซับซ้อน ถ้าจะให้รู้ทั้งหมดคงต้องขอเวลาสักหนึ่งวันเชียวแหละ หรือถ้าอยากรู้โทนสีขอตัวเองแบบเป๊ะ ๆ สามารถหาคอร์ส Personal Color ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : 1

Peangaor

นักเขียนประจำ Thaiger จบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มศว เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาชี้แจงแตกประเด็นในรูปแบบย่อยง่ายเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง รวมถึงเรื่อง Pop culture ซีรีส์ อาหาร และเทรนด์แฟชั่นที่กำลังอินเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ preme@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button