ข่าว

ศาลยกฟ้อง ‘แอม ไซยาไนด์’ ฟ้อง ‘รพี’ หมิ่นประมาท ‘ทนายพัช’ จ่อยื่นอุทธรณ์

ศาลอาญามีคำสั่งยกฟ้อง แอม ไซยาไนด์ ฟ้อง รพี ข้อหาหมิ่นประมาท ด้าน ทนายพัช เผยจ่อยื่นอุทธรณ์ เผยมีหลักฐานเด็ด

ศาลอาญานัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในคดี อ.1090/2566 ที่ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ต้องหาคดีวางยาฆาตกรรมเหยื่อหลายราย ฟ้องนาย รพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีดังกล่าว ฐานความผิดหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณาฯ หลังไปออกรายการโทรทัศน์

ก่อนเข้าฟังคำสั่ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง เปิดเผยว่า วันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการไต่สวนไปแล้ว 2 นัด โดย นางสรารัตน์ ได้ฟ้อง นายรพี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่ไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง โดยใช้คำพูดว่า “โกหกเจ้าหน้าที่จนหัวปั่นและหลอกตำรวจ” ซึ่งเป็นการพูดตามข้อเท็จจริง ซึ่งในวันนี้นายรพีไม่ได้มาร่วมฟังคำสั่งเนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด

ด้าน น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือทนายพัช ทนายความของนางสรารัตน์ เปิดเผยก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า หากคดีนี้ศาลมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูล ตนก็จะอุทธรณ์ต่อไป แต่ถ้าศาลเห็นว่าคดีมีมูล และมีคำสั่งรับฟ้องกรณีที่นายรพีไม่มาฟังคำสั่ง ตนก็จะส่งหมายศาลไปยังภูมิลำเนา

อย่างไรก็ตาม มีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะเอาผิดกับนายรพี ซึ่งนายรพีก็ยอมรับว่า บุคคลที่อยู่ในคลิปนั้นเป็นตนเองจริง ในชั้นนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาว่า มีองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ส่วนการกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดหรือไม่นั้น ก็จะเป็นอีกชั้นหนึ่งคือศาลต้องรับฟ้องก่อน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีต่อไป

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว การที่นายรพี จำเลย ได้รับมอบอำนาจจากมารดาผู้ตายให้ดำเนินการแทนได้ เรื่องให้ข้อมูลทางภาครัฐและทางสื่อมวลชน ดังนั้นที่จำเลยออกไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า โกหกตำรวจจนหัวปั่นนั้น เป็นข้อเท็จจริงจากแนวทางการสืบสวนของตำรวจในรายการหนึ่ง จึงเป็นการกล่าวโดยสุจริตไม่เป็นความผิด ยกฟ้อง

ภายหลังศาลมีคำสั่ง น.ส.อำนวยพร ทนายจำเลย เปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า นายรพีได้รับมอบอำนาจจากญาติผู้เสียหาย ซึ่งการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์นั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงจากการสืบสวนของตำรวจ ซึ่งได้รับรายงานจากตำรวจชุดคลี่คลายคดี เป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐด้วย จึงเป็นการให้สัมภาษณ์โดยสุจริต ซึ่งฝ่ายโจทก์มีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน หรืออาจจะขยายได้ครั้งละ 1 เดือน ซึ่งนายรพีเองก็รู้สึกดีใจ ที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลในครั้งนี้

ด้านน.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช เปิดเผยว่า หลังจากนี้เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายใน 30 วัน หลังมีพยานหลักฐานใหม่ที่ยื่นต่อศาลไปแล้วเมื่อวานนี้ เป็นเอกสารเกี่ยวกับใบรับมอบอำนาจ มารดาของผู้เสียชีวิตให้กับนายระพี ซึ่งพบความผิดปกติ โดยในเอกสารมอบอำนาจ ลงวันที่ 14 เม.ย. 2566 แต่เอกสารสำเนาบัตรที่ใช้ยื่นประกอบรับรองการมอบอำนาจ พบเป็นวันที่ 1 พ.ค.66 ซึ่งอาจเป็นการออกบัตรหลังจากที่ทำหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคำสั่งในชั้นอุทธรณ์ ต่อไป

ส่วนเรื่องคดีความของแอมไซยาไนด์ ตำรวจอ้างว่าจะสรุปสำนวน ฟ้องแอมรวมทั้งหมด 15 สำนวน ขณะนี้มีเพียงสำนวนเดียวของน.ส.ก้อย ที่ส่งมาถึงอัยการเท่านั้น ฝากไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่กำกับดูแลคดีดังกล่าวว่าความคืบหน้าในการทำสำนวนที่เหลือไปถึงไหนแล้ว หากตำรวจไม่ฟ้องสำนวนที่เหลือตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ ตนเตรียมฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงญาติผู้เสียชีวิตที่เหลือด้วย

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button