ข่าวข่าวการเมือง

อดีตแกนนำทะลุวังแฉ ถูก ‘บุ้ง’ หลอกใช้ ก่อนนำไปเรียกผลประโยชน์

พลอย อดีตแกนนำทะลุวัง ออกโรงแฉถูก บุ้ง หลอกใช้ ยุเด็กเคลื่อนไหวแรงๆ ก่อนนำไปเรียกผลประโยชน์ ขอทุนเคลื่อนไหว

กลายเป็นประเด็นร้อนหลังจากที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @youaretofuu ของ น.ส.เบญจมาภรณ์ หรือ “พลอย” อดีตแกนนำกลุ่มทะลุวัง ได้ออกมาพิมพ์ข้อความถึง น.ส.เนติพร หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” โดยเล่าว่าเธอถูกหลอกใช้ เพื่อที่บุ้งจะนำไปเรียกผลประโยชน์

พลอย เล่าว่า “เราเคยเป็นหนึ่งในเด็กที่บุ้งเอามาดูแลเหมือนหยก รู้จักกันตั้งแต่สมัยอยู่ นักเรียนเลว ตอนนั้นที่บ้านเรามีปัญหาทำให้ไม่มีบ้านอยู่ โดนคดีมันต้องมีผู้ปกครอง บุ้งมาเป็นผู้ปกครองแทนพ่อแม่ที่ดูแลเราไม่ได้ บุ้งก็รับปากเรากับแม่เราว่าจะดูแลเราอย่างดี

บุ้งดูแลเราอย่างดีในช่วงแรกที่อยู่ด้วยกัน เรายังคงอยู่กับบุ้งเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน บ้านก็ไม่มีให้กลับ ตอนนั้นเราเริ่มสัมผัสได้ถึงความรุนแรงในบ้านที่อยู่กับบุ้ง การถูก Child Grooming (การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ) การโดนหลอกใช้ และการขูดรีดผลประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในฐานะเยาวชนเพราะเราอายุแค่ 16 ปี

บุ้งมักจะชอบดูแลเด็กที่มีปัญหากับที่บ้านหรือมีปัญหาในชีวิตและมีแสง บุ้งจะรับเด็กมาดูแล อาสาเป็นผู้ปกครอง และค่อยๆ ใช้ประโยชน์จากเด็กคนนั้น เรากับเพื่อนโดนเอาผลงานการเคลื่อนไหวไปขอทุนเคลื่อนไหว แต่เงินทุนกลับส่งไม่ถึงเรา เพื่อนหลายคน และไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบุ้งได้

เรื่องการใช้ความรุนแรงของบุ้งกับเราและเพื่อนๆ เขาทำเหมือนที่ทำกับยามหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนโมโห เขาจะใช้อารมณ์ทำให้เรารู้สึกหวาดกลัว ด้อยค่า ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ตามสไตล์มินิพูเลต (หลอกใช้) ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เราโดนหลอกใช้จนทุกวันนี้ยังกลับมาใช้ชีวิตยาก

บุ้งชอบให้เด็กออกมาเคลื่อนไหว เทกแอ็กชันแรงๆ โดยบุ้งบอกกับเราว่าเรายังเด็ก ต่อให้โดนคดีก็ยังไม่โดนหนักเพราะยังมีศาลเยาวชน และเด็กถ้าเจอความรุนแรง เช่น ตำรวจจับ บลาๆ จะเป็นข่าวง่าย ขอทุนง่าย ไวรัลง่ายกว่า แล้วบุ้งอ้างว่าจะซัปพอร์ตน้องๆ อยู่ข้างหลังแทน

จนเริ่มทำ “ทะลุวัง” เราโดนหนักมากขึ้น บังคับให้เราออกไปทำอะไรเเรงๆ แรงสุดคือเคยโดนให้ไปบุกคุกวังทวี (วังทวีวัฒนา หรือเรือนจำชั่วคราวพุทธมณฑล) แต่ตอนนั้นเราบอบช้ำจากการเคลื่อนไหวมามากแล้ว เหนื่อยโดนคดี เราบอกว่าสภาพจิตใจเราไม่ไหว ไม่อยากทำ ก็โดนปิดประตูใส่หน้า อยากจะหนีก็ไม่ได้ เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว

เราลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเคลื่อนไหว เงินก็ไม่มี ครอบครัวก็ทิ้ง ตอนนั้นเราคิดว่าเราต้องพึ่งพาแค่บุ้งเท่านั้น สุดท้ายหลุดออกมาได้เพราะเพื่อนรอบตัวให้ความช่วยเหลือ เป็นผู้ปกครองให้แทน จนปัจจุบันเราเป็นผู้ลี้ภัย 112 อยู่ต่างประเทศ เราก็ยังโดนเขาโจมตีในขบวนเสียๆ หายๆ อยู่เรื่อยๆ

ทั้งกล่าวหาว่าเรายักยอกเงิน หนีคดี ขโมยของ ตอแหล โดนแช่งให้ตายระหว่างลี้ภัย บางคนก็เกลียดเราจริงๆ ไปแล้วก็มี เรารู้มาเสมอว่าเรามีปัญหากับหลายฝ่ายในขบวน เรื่องหลายๆ เรื่องที่เราอยากคุยเพื่อคลี่คลาย ขอโทษ ก็ไม่มีโอกาสได้ทำเพราะเรายังโดนโจมตีอยู่ตลอดเวลา

ควรมีการถกกันเรื่องนี้สักที เด็กกับการออกมาเคลื่อนไหวเนี่ย เด็กไม่ได้เจอแค่การคุกคามจากรัฐ ครอบครัว สังคม แต่อาจจะโดนขบวน ทำร้าย โดนขูดรีดความเป็นเด็ก โดนหลอก คนที่ได้รับผลกระทบก็คือตัวเด็กเอง มันส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กระยะยาวมาก นี่ยังเป็นซึมเศร้าอยู่เลย

เลิกด่าหยก เด็กเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ คนโดนหลอกมันไม่รู้ตัวหรอก หยกเจอความรุนแรงมามากตั้งแต่ติดคุก ทั้ง Cyber bullying โดนคดี สังคมเฮงซวย ต้องมาเจอกลุ่มทะลุวัง หยกเหมือนกระจกสะท้อนตัวบุ้ง หยุดโจมตีเด็กได้ หันมาสนใจอะบิวเซอร์ (abuser คือผู้ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด) กันเยอะๆ ว่าพวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่

ช่วยเหลือและรับฟังความต้องการของหยก หยุดให้แสงหรือโทษคนที่กำลังโดนหลอกใช้ก่อน มันละเอียดอ่อนทั้งตัวของเหยื่อและคนมินิพูเลตเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าแต่ละวันเหยื่อเจอคำพูด ถูกปฏิบัติแบบไหนมาบ้าง อะไรคือความรู้สึกที่แท้จริง หัวมันปั่นป่วนไปหมดเพราะการหลอกใช้ ใช้ความรุนแรงและกาสไลต์ (ชักจูงให้เชื่อแบบผิดๆ)

เราพยายามสรุปเรื่องราวตลอด 2 ปีที่อยู่กับบุ้ง จริงๆ มันมีมากกว่านั้นแต่กลัวทวีตยาวเกิน แต่อย่างหนึ่งที่เพื่อนเราเคยถูกมินิพูเลตบอก การที่ผู้ถูกกระทำหรือตัวเด็กยังอยู่ในวังวนความรุนแรง โดนมินิพูเลต แปลว่า ผู้กระทำ ประสบความสำเร็จ”

ทั้งนี้ทางสำนักข่าว PPTV ได้ติดต่อไปขอสัมภาษณ์ บุ้ง ถึงกระแสดังกล่าว โดยเธอกล่าวว่า “อันนั้นเป็นข้อเท็จจริงของเขา แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น ทุกวันนี้ใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงาน เงินที่ดูแลน้องหยก เป็นเงินที่เราทำงานมาเอง และภายใต้การดูแลน้องหยก ก็มีแฟนบุ้ง มีพี่ๆ คนอื่นคอยดูแลด้วย”

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button