ข่าวข่าวการเมือง

ชัชชาติ เผยผลงาน ทำแล้ว 211 โครงการ มั่นใจมาถูกทางแล้ว แต่ยังมีเรื่องต้องปรับ

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยผลงาน ทำแล้ว 211 โครงการเหลืออีก 1 โครงการใหญ่ มั่นใจมาถูกทางแล้ว แต่ยังมีเรื่องต้องปรับ ยินดีรับฟังความเห็น ปชช.

นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เป็นประธานแถลงข่าว ”365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน” โดยนายชัชชาติกล่าวว่า การทำงานต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใส เพราะประชาชนรับไม่ได้กับเรื่องสวยหรือการทุจริตซึ่งต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และต้องมีการพัฒนาโครงการเส้นเลือดใหญ่ร่วมกับเส้นเลือดฝอย ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง อย่างเหตุต่างๆที่เกิด ก็มีการลงพื้นที่ไปตรวจงาน อยากให้ผู้บริหารทุกคนทำ

นอกจากนี้นายชัชชาติยังระบุว่าได้ดำเนินการทางด้านนโยบายไปแล้ว 211 นโยบายยังเหลืออีก 11 นโยบาย ส่วนโครงการขนาดใหญ่ยังไม่สามารถทำได้ใน 1 ปี แต่จะเป็นการปรับปรุงพัฒนาเรื่องเล็กๆ เพราะที่ผ่านมามีโครงการต่อเนื่องจากผู้ว่าฯคนก่อน เช่น อุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอน คลองเปรม โครงการก่อสร้างถนนรามคำแหง ระบบขนส่งสาธารณะต่างๆเช่นรถไฟฟ้า ส่วนโครงการใหญ่ที่กำลังดำเนินการใหม่ เช่นโครงการบำบัดน้ำเสียคลองเตย ทางเชื่อมถนน จะดำเนินการในปีต่อๆไป

ส่วนในเรื่องของนโยบายที่ดำเนินการไปแล้วจะมีเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่นทางม้าลายไฟฟ้าส่องสว่างทางเท้าติดตั้งไฟข้ามถนนเพิ่ม ติดตั้งกล้อง ตรวจจับการกระทำความผิด และได้มีการร้องเรียนผ่าน Traffy Fondle มาแล้วกว่า 300,000 เรื่องซึ่งได้ดำเนินการแล้ว กว่า 2 แสนเรื่อง ขณะที่อีก 60,000 เรื่อง เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจของกรุงเทพมานครต้องมีการประสานส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การไฟฟ้านครหลวง กรมทางหลวง เป็นต้น

ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะเช่นการประมูลต่างๆมีการเปิดเผยต่อสาธารณะให้ประชาชนตรวจสอบได้แล้วกว่า 700 เรื่อง โดยร่วมมือกับ ปปช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการดำเนินคดีกับผู้ที่ทุจริตไปแล้วหลายราย เรื่องความโปร่งใส กทม.ถือว่าดำเนินการได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของนโยบายด้านอื่นๆนั้น เช่น นโยบายเศรษฐกิจดี มีการพัฒนาหลักสูตรฝึกอาชีพ การร่วมมือกับกรุงไทยช่วยเหลือผู้ค้าหาบเร่ นโยบายเดินทางดี มีการปรับปรุงทางเท้า 221 กม. มีการปรับคอนกรีตเสริมเหล็ก มาตรฐานทางเท้าใหม่ ปรับลานทางเดินเลียบคลองแสนแสบ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ นโยบายสิ่งแวดล้อมดี มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 400,000 ต้น การตรวจควันดำ การแยกขยะไม่เทรวม ซึ่งขยะลดลงกว่า 300-700 ตัน ต่อวัน

นโยบายสุขภาพดี มี 22 คลินิกเพศหลากหลาย มีการนำร่องให้บริการหมอถึงชุมชนผ่าน Mobile Medical Unit เปิดให้บริการ Telemedicine ขยายโครงการโรงพยาบาล 10,000 เตียงสู่ชุมชนทั่วกรุงเทพฯ เสริมศักยภาพ อสส. สู่ Caregiver คุณภาพ

นโยบายสังคมดี เน้นให้สังคมมีพื้นที่ในการแสดงออก โดยชัชชาติกล่าวว่า สิ่งนี้ไม่ต้องใช้ตังค์ เพราะเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น กิจกรรมดนตรีในสวน ลดเวลาในการออกบัตรครพิการ เปิดระบบจองพื้นที่สาธารณะ จัดตั้งอาสาสมัคร เทศโนโลยี (อสท.) และคนไร้บ้านลดลงกว่า 490 คน

นโยบายเรียนดี มีการปรับค่าอาหารกลางวันและ เพิ่มค่าอุปกรณ์การเรียนจาก 100 เป็น 600 บาท แจกผ้าอนามัยกว่า 380,000 ชิ้น เปิดโรงเรียนวันหยุดและหลังเลิกเรียน เพิ่มวิชาเสรีให้กับนักเรียน

นโยบายบริหารดี มีการการจัดสรรค์งบประมาณกลางปี 66 กล่า 5024 ล้าน ลงเส้นเลือดฝอย มีการจัดสรรค์งบ 200,000 บาท/ชุมชน การทำงบประมาณฐานศูนย์ Zero-based budgeting ล้างงบใหม่ในแต่ละปี ไม่นำงบประมาณปีก่อนหน้ามาคิดในการทำโครงการต่างๆ

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่แก้ไขยากที่สุด นายชัชชาติตอบว่าเรื่องทุจริต เพราะเป็นเรื่องยาก มันเป็นสารตั้งต้นและเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าหากไม่มีความโปร่งใส ประชาชนก็ไม่ยอมรับ เราต้องสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน

ส่วนปัญหาน้ำท่วมนายชัชชาติกล่าวว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะมีบทเรียนจากปีที่แล้ว แต่จะมีกรณีที่คาดการยากคือภาวะโลกร้อน อาจจะมีฝนตกมากกว่าปกติ ซึ่งต้องใช้เวลาในการระบายน้ำ ส่วนกรณีที่มีการกล่าวว่าไม่มีผลงาน นายชัชชาติ ระบุว่า ต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลให้มากขึ้น แต่ใจจริงแล้วอยากให้ประชาชนรู้สึกว่า ชีวิตดีขึ้นเอง และเน้นย้ำว่าต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

นาย ชัชชาติ ปิดท้ายว่าว่า เป็นหนึ่งปีที่ถือว่าสนุกดี แต่ยังต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น และมั่นใจว่าตนและทีมงานมาถูกทาง และยินดีรับฟังข้อติชมของพี่น้องประชาชนเพื่อให้การทำงานดีขึ้นต่อไป

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button