เปิดพระราชประวัติ ‘คามิลลา’ สมเด็จพระราชินีองค์ที่ 29 แห่งอังกฤษ พระชายาคู่บุญของ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 กับตำนานความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย
เข้าสู่รัชกาลใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ เมื่อมีการแต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าชาร์ลสที่ 3 (Charles III) และสมเด็จพระราชินีคามิลล่า (Camilla Rosemary Shand) ขึ้นเป็นประมุขของสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนืออย่างเป็นทางการ วันนี้ไทยเกอร์เลยจะถือโอกาส พาทุกท่านไปเปิดพระราชประวัติของ คามิลลา หญิงสาวผู้กุมหัวใจของกษัตริย์ชาร์ลส์มาได้อย่างเนิ่นนาน พร้อมเจาะลึกเส้นทางชีวิตรักสุดทรหด กว่าจะเคียงคู่กันอย่างทุกวันนี้
พระราชประวัติ สมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร ราชินีคู่บุญพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
คามิลลา หรือพระราชินีคามิลลา มีชื่อเดิมว่า คามิลลา โรสแมรี แชนด์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ เกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 เป็นสมาชิกของครอบครัวชั้นสูงในอังกฤษ เนื่องจากบรรพบุรุษของเธอเป็นขุนนางเก่า โดยคามิลลาเป็นบุตรสาวของ บรูซ แชนด์ และ โรซาลินด์ คูบิตต์
คามิลลาเติบโตในเมืองอีสต์ซัสเซกซ์ และเซาท์เคนซิงตันของประเทศอังกฤษ โดยในด้านการศึกษาคามิลลาได้ร่ำเรียนในอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ก่อนจะได้รู้จักกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เมื่อปี 1970 และเริ่มคบหากันในปีต่อมา โดยในตอนนั้นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระชนมายุเพียง 20 ปีเศษ และได้ตกหลุมรักกับคามิลล่าอยู่เกือบ 2 ปี
กระทั่งในปี 1973 คามิลล่าได้แต่งงานกับเจ้าหน้าที่กองทัพอังกฤษชื่อว่า แอนดรูว ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ โดยมีลูกด้วยกันทั้งหมด 2 คน ก่อนที่ทั้งคู่จะตัดสินใจหย่ากันในปี 1995 ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ก็ได้อภิเษกสมรสกับเลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ไปแล้วเช่นกัน ทว่ายังคงมีข่าวลือหนาหูว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลลายังคงติดต่อกันอย่างลับ ๆ แม้จะเลิกรากันไปนานแล้วก็ตาม
ต่อมาในปี 1996 ชีวิตรักของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอานาก็ถึงคราวจบลง เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจหย่าขาดกัน เหลือเพียงสถานะพ่อและแม่ให้กับพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ด้านคามิลล่าในตอนนั้นก็ถูกโจมตีอย่างหนักว่าเป็นต้นเหตุทำให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลล่าต้องแยกทางกัน
เส้นทางรัก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ คามิลลา
แม้จะถูกวิจารณ์และมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน แต่ความรักของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และคามิลลา ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมั่นคง เป็นเหตุให้แคลเรนซ์เฮาส์ประกาศเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ว่าเจ้าชายชาลส์และคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ จะอภิเษกสมรสกันในอีกสองเดือน
กระทั่งในวันที่ 9 เม.ย. 2005 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ คามิลลาก็ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้พระราชทานยศให้คามิลลาขึ้นเป็น ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์
หลังขึ้นเป็นดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ คามิลล่าก็ได้กลายมาเป็นสตรีสูงสุดอันดับสองในลำดับชั้นของอังกฤษ เป็นรองจากควีนเอลิซาเบธที่ 2 พร้อมขึ้นเป็นพระวิมาดาของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ และเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ พระโอรสทั้ง 2 พระองค์ของพระสวามีกับไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ อดีตพระชายาในทันที
ทั้งนี้คามิลลามีบทบาทสำคัญ ในการเป็นที่ปรึกษาและช่วยเหลืองานราชวงศ์อังกฤษ จนทำให้พระองค์ได้รับการยอมรับจากสมาชิกราชวงศ์ ข้าราชการใกล้ชิด และประชาชนบางกลุ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
คามิลลา ในฐานะราชินีคนใหม่ของอังกฤษ
เมื่อปี 2022 ในงานวาระการครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ของควีนเอลิซเบท ได้มีการแต่งตั้ง คามิลลา ให้ทรงขึ้นดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร เป็นพระอัครมเหสีพระองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต ส่งผลให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 (Charles III) กษัตรย์พระองค์ใหม่ของอังกฤษทันที โดยมีคามิลลา ในฐานะพระวรชายา ก้าวขึ้นมาเป็นสมเด็จพระราชินีอังกฤษเคียงข้างพระองค์
สำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ได้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 พฤษภาคม 2023 ณ มหาวิหารเวสมินสเตอร์ โดยมีประมุขของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เสด็จเข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาของประชาชน ซึ่งในปีนี้สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 จะมีพระชนมพรรษา 74 พรรษา ในขณะที่สมเด็จพระราชินีคามิลลา จะมีพระชนมพรรษาครบ 75 พรรษา.
ภาพจาก The Royal Family
