สรุปดราม่า #ลัทธิส่าย ฟังสองมุม ล้างสมองเด็ก หรือเป็นเพียงเทคนิคการสอน?
สรุปดราม่า #ลัทธิส่าย หลังชาวเน็ตโยงเป็นสถาบันสอนพิเศษเผยแพร่แนวคิดสุดประหลาด ล้างสมองเด็กนักเรียน กล่าววาจาหยาบคาย ด่าลูกคนรวย ดูหมิ่นและเหยียดหยามผู้พิการ พร้อมข่มขู่หากใครออกไม่จ่ายคืนเงินมัดจำ ล่าสุดชี้แจงแล้ว เป็นเพียงเทคนิคการสอนโดยใช้ “ความจริง”
เมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 เกิดเหตุดราม่าระส่ำโซเชียลกันอีกครั้ง กรณีเพจเฟสบุ๊ค อยากดังจัดให้ รีเทริน์ part6 ได้ทำการเผยแพร่คลิปอบรมของ ติวเตอร์สอนพิเศษแห่งหนึ่ง ที่ปลูกฝังความคิดแปลกประหลาด จนกลายเป็นแฮชแท็ก #ลัทธิส่าย ติดเทรนด์อันดับต้น ๆ บนทวิตเตอร์ ด้วยการสอนแนวคิดแก่นักเรียนว่า ใครก็ตามที่ทางบ้านมีฐานะร่ำรวย เปรียบได้กับผู้พิการที่ไม่สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับกล่าวแซะเด็กนักเรียนต่าง ๆ นานา และข่มขู่ผู้ที่พยายามเดินออกจากห้องว่าจะไม่คืนเงินมัดจำ
ภายหลังที่ได้มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากแห่จวกยับ กระทั่งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 ได้มีสำนักข่าวดังลงพื้นที่สัมภาษณ์เจ้าของคอร์สเรียนดังกล่าว ก่อนที่เจ้าตัวจะชี้แจงว่าแท้จริงแล้วตนเองไม่ใช่ลัทธิ ทว่าเป็นการสอนให้รู้จักใช้ความจริงในการดำรงชีวิต พร้อมกับกล่าวขอโทษใช้คำหยาบ แต่เจตนาที่ดีกับเด็กจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ทีมงาน Thaiger ได้ทำการรวบรวมสรุปดราม่าไทม์ไลน์เหตุการณ์แฮชแท็ก #ลัทธิส่าย ว่ามีเรื่องราวที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ
สรุปดราม่า #ลัทธิส่าย คืออะไร
วันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 ได้เกิดกระแสดราม่าแฮชแท็ก #ลัทธิส่าย ติดอันดับเทรนด์ทวิตเตอร์ พร้อมกับคลิปไลฟ์สดของสถาบันติวเตอร์สอนพิเศษแห่งหนึ่ง ที่กำลังจัดคอร์สอบรมตามปกติ แต่ดูเหมือนว่าคลิปดังกล่าวที่เผยแพร่ออกไปบนโลกโซเชียลจะไม่ใช่การสอนตามรายวิชาแต่อย่างใด ทว่าเป็นการจัดสอนเรื่องแนวคิดการใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริง ด้วยการพูดคำหยาบ แซะเด็กบ่นเด็กขณะไลฟ์สด พร้อมกับกล่าวดูหมิ่นนักเรียนโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง ด้วยการเปรียบเทียบลูกคนรวยเหมือนคนพิการที่นั่งรถเข็นเที่ยวรอบโลก
“…พวกคุณมีฐานะครับ พวกคุณไม่เคยเจอความลำบาก แต่ที่พี่สอน การฝึกมันต้องฝืนนะครับ น้องเหมือนเด็กพิการที่ถูกใส่รถเข็นแล้วพาไปเที่ยวทั่วโลก…”
“…มุมมองของพี่ต่อเด็กสาธิตคือลูกคนรวย และลูกคนรวยมันโตด้วยความสุขสบาย แต่เรื่องของเรามันเป็นเรื่องที่น้องต้องลำบาก และถ้าน้องอยากจะเปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้าน้องยังสบายอยู่จะให้น้องทำยังไงล่ะ…
“…พวกมึงต้องโตขึ้น และถ้าพวกมึงยังเรื่องมากกับชีวิตเนี่ย มึงมีสิทธิทำได้ตอนนี้เพราะพ่อแม่มึงคุมกะลาหัวอยู่ครับ เดี๋ยวเขาและพี่ต้องตายห่าครับ…ถ้าน้องยังไม่พร้อมต่อสิ่งที่เกิดขึ้น น้องก็จะลำบาก…”
ภายหลังคลิปดังกล่าวถูกแชร์จนกลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล ก็ได้มีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสมของการปลูกฝังความคิดดังกล่าวแก่นักเรียนต่าง ๆ อาทิ
“พูดคำหยาบกับเด็ก!! พอมีเด็กลุกออกไปแล้วยังจะว่าแซะเด็ก!! แล้วยังขู่เด็กที่จะลาออกอีก!! จะไม่มีการคืนเงินมัดจำด้วย แล้วมาบอกเงินเป็นแค่กระดาษ ถุย ครูติวหนังสือเด็กทำตัวแบบนี้ก็ได้หรอ ทั้งไลฟ์พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ พูดไม่รู้เรื่อง ไม่มีการติหนังสือเลย #ลัทธิส่าย #โหนกระแส”
“ลัทธิไหมล่ะ ให้เด็กมาขอโทษที่ไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองด้วยการเขียนเรียงความ ใครเขียนสั้นไม่จริงใจ ด่านะงับ เรียนจบคอร์สเก่งเรียงความและมีสมาธิแน่นอน #ลัทธิส่าย #โหนกระแส”
“อีกเยอะ มีให้คิดเลข ใครได้คะแนนน้อยสุดต้องโอนตังจ่าย เห้ย นี่มันยังต้องจ่ายเงินอีกหรอวะเสียมาห้าหมื่นละ แปลกๆ #ลัทธิส่าย #โหนกระเเส”
“การเปรียบเทียบลูกคนรวยเหมือนคนพิการใส่รถเข็นพาเที่ยวทั่วโลก คำนี้แรงไปมั้ย ทำไม ideal ความสำเร็จคือต้องจนหรอ? แล้วน้องๆผิดไรอะ สุดท้ายถ้าชีวิตเรียนเอกชน น้องเค้าก็ไม่ได้ถูกลดทอนคุณค่า แต่จะบอกไรให้นะ คอนเนคชั่น มันเริ่ดกว่าเกรดการศึกษาอีก #ลัทธิส่าย”
“ครูห่าไรพ่นคำหยาบใส่เด็ก แล้วพอจะมีคนขอออกจากคอร์ส ก็แซะเด็กบ่นเด็ก ในไลฟ์ก็พล่ามไรไม่รู้ เป็นอีแก่บ้าน้ำลาย สงสารน้องๆ เอาเงินไปเติมเกมยังคุ้มกว่ามานั่งฟังมันพูดอะ เสียเวลา #ลัทธิส่าย”
ความจริงของ #ลัทธิส่าย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีสำนักข่าวชื่อดัง ลงพื้นที่สัมภาษณ์เจ้าของคอร์สดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงกรณีการสอนแนวคิดแปลก ๆ และการใช้คำหยาบที่ไม่เหมาะสมต่อนักเรียนที่มาอบรม โดยเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจง หลังจากคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ โดยระะบุว่า
“ตนเองสอนเด็กให้รู้จักใช้ความจริงในการดำรงชีวิตไม่ให้ไปยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังเช่นตัวอย่างในคลิป ที่พูดถึงเรื่องเงินก็ถือเศษกระดาษ คนเอาไปยึดติดกับเงินจนมากเกินไป สมมติอย่างได้รถมีเงินก็ไปซื้อมาจนเป็นหนี้ถูกครอบคำโดยเงิน สำหรับส่วนที่บอกว่าเป็นลัทธินั้นไม่เป็นความจริง เพราะภายในคลิปไม่ได้มีพิธีกรรมการกราบไหว้บูชาแต่อย่างใด แต่คำพูดที่ใช้สอนออกไปนั้นจะมีคำหยาบบ้างก็เลยทำให้มีคนไม่พอใจก็ขออภัยด้วย ทั้งหมดนั้นคือเจตนาที่ดีกับเด็ก พร้อมกับพาไปดูวิธีการสอนเด็กๆ ภายในห้องอีกด้วย”
สำหรับประวัติของ “พี่ส่าย” คือเจ้าของสถาบันกวดวิชาที่ตั้งอยู่ภายในตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา เกียรตินิยมอันดับ 1 ประสบการณ์สอนมากกว่า 20 ปี และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่นักเรียกกวดวิชา
ทั้งนี้จากการชี้แจงของ “ครูส่าย” กรณีแฮชแท็ก “#ลัทธิส่าย” ที่แพร่กระจายอยู่บนโลกโซเชียล ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงความผิดถูก หรือความเหมาะสม-ไม่เหมาะสม กันอย่างเนืองแน่น เพราะก็มีชาวเน็ตบางกลุ่มมองว่าเป็นเพียงเทคนิคการสอน ที่พอคนไม่เคยเรียนมาเห็นก็จะรู้สึกว่าเป็นการคุกคามนักเรียน อย่างไรก็ตามก็ต้องรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรนับจากนี้