ข่าวข่าวภูมิภาค

เผย สาเหตุระเบิดโรงงานเก็บชนวนระเบิดอยุธยา ยืนยันไร้ผู้ได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่เผย สาเหตุระเบิดโรงงานเก็บชนวนระเบิดอยุธยา คาดสารเคมีโดนความร้อน ยืนยันไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุครั้งนี้

จากกรณีที่เกิดเหตุระเบิดโรงงานผลิตชนวนระเบิดกองโรงงาน วัตถุระเบิดศูนย์อุตสาหกรรมสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชน ดังที่มีการรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุดมีการรายงานสาเหตุโรงงานผลิตชนวนระเบิดอยุธยาระเบิดนั้น อ้างอิงตากเจ้าหน้า ปภ.พระนครศรีอยุธยา ระบุว่า เกิดจากชนวนประกอบวัตถุระเบิดที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จากนั้นนำออกมาจากตัวอาคารใส่ไว้ในหลุมเพื่อรออนุมัติทำลายล้าง แต่เกิดระเบิดดังขึ้น ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดมาจากความร้อน ส่วนข้อมูลที่ชัดเจนต้องรอสรุปอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบภายในพบว่า จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนหันตรา-บ้านเกาะ ประมาณ 3 กิโลเมตร พบว่า จุดระเบิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 5 เมตร ซึ่งหลุมดังกล่าวเป็นหลุมไว้ใช้สำหรับทำลายสารเคมีที่ใช้แล้ว ในการประกอบชนวนระเบิด เมื่อไปถึงยังคงมีกลุ่มควันลอยคลุ้งอยู่ภายในหลุม

พ.อ.อิศเรศ ศิลางาม ผู้อำนวยการกองโรงงานวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบกทหาร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงงานผลิตชนวนระเบิด ได้รับงบประมาณให้ปรับปรุงอาคารเก่า ที่ใช้เก็บสารเคมีในการประกอบชนวนระเบิด

ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการขนย้ายสารเคมีบางส่วนออกมาภายนอกอาคาร และต้องกำจัดสารเคมีที่ไม่ได้ใช้แล้วในการผลิตออกมาไว้กลางแจ้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดไนตริก กับกรดซัลฟิวริก ที่ใช้เป็นสารตั้งต้น ในการผลิตชนวนระเบิด เกิดทำปฏิกิริยากับอากาศและ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เกิดการลุกไหม้จนเกิดการระเบิดเกิดขึ้น ยืนยันว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว อาจจะไม่มีการระเบิดซ้ำ ชาวบ้านบริเวณโดยรอบพื้นที่ไม่ต้องอพยพ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button