เปิดใจพ่อน้องคิว เด็กนักเรียนถูกไฟคลอกสาหัสขณะเข้าค่ายลูกเสือ ถามครูกับเพื่อนลูก เล่าหนังคนละม้วน ผอ.โรงเรียนโนนสังวิทยาคาร ยืนยันดูแลเต็มที่แม้ไม่มีงบมาก
จากกรณี โรงเรียนโนนสังวิทยาคาร จ.หนองบัวลำภู จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ เมื่อวันที่ 2-3 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขณะทำกิจกรรมซูลูรอบกองไฟ ไฟลุกไหม้คลอกร่างเด็กอายุ 14 ที่ไปเข้าค่าย บาดเจ็บหลายราย ในจำนวนนี้มีบางคนอาการสาหัส ถูกไฟคลอกกว่า 90%
ล่าสุดวันนี้ (6 ก.พ.66) ในรายการโหนกระแสวันนี้ พ่อของน้องคิว เด็กที่ถูกไฟคลอกกว่า 90% ได้มาร่วมพูดคุยถึงความคืบหน้าพร้อมกับซักถามข้อสงสัยต่างๆ หลังเกิดเหตุ โดยฝ่ายผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ เผยหลังจากได้ไปสอบถามกับครูและเพื่อนของลูก ปรากฏ สิ่งที่ได้ยินจากแต่ละฝ่าย เรื่องราวคล้ายจะเป็นเหมือนหนังคนละม้วน
ระหว่างเกิดเหตุ หลายคนให้ข้อมูลตอนไฟไหม้ไม่ตรงกัน
- ประเด็นแรก ทางโรงเรียนแจ้งว่า จุดไฟแล้วลมแรง ไฟลามโดนเด็ก
- ประเด็นที่ 2 ครูบอกว่า จุดแล้วไฟไม่ติด เด็กไปจุดกันเอง เอาคบเพลิงไปชุบน้ำมันแล้วมาจุด แล้วไฟลุกโดนเด็ก
- เรื่องที่สาม น้าของเด็กอีกคนที่บาดเจ็บ บอกว่า ครูได้เอาแอลกอฮอล์มาเทใส่คบเพลิงให้เด็กแล้วไฟลามย้อนขึ้นมาที่ขวดจนระเบิดใส่เด็ก
- ประเด็นที่ 4 ผอ.โรงเรียน มาเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาล อ้างว่า “ถังน้ำมันล้ม ทำให้ไฟลามโดนเด็ก”
ทั้งนี้ หลังจากพ่อน้องคิวให้ข้อมูลไปเสร็จ เจ้าตัวก็เปรยกับ กรรชัย พิธีกรทันทีว่า จนถึงวันนี้ทางครอบครัวยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงที่แท้เป็นอย่างไร ก่อนจะตั้งข้อสงสัย ไม่ทราบกรณีดังกล่าวมีการปกปิดข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องใครหรือไม่
นอกจากนี้ พ่อน้องคิวยัง กล่าวในรายการอีกว่า วันแรกที่เห็น ลูกเจ็บปวดทรมานมาก พูดซ้ำๆ ว่า “เป็นเพราะครู เป็นเพราะครู” แต่หลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนยังไม่เข้ามาชี้แจงอะไรเลย มีแค่ ผอ.ที่มาเยี่ยมที่ รพ. แล้วพูดว่า “เดี๋ยวก็หาย”
โฟนอินหา ผอ.โรงเรียน ทิ้งเด็กไว้หลายนาที ไม่ส่งโรงพยาบาลทันที ไม่จริง
ขณะที่ นายสำเนา เทียมดวงแข ผอ.โรงเรียนโนนสังวิทยาคาร โฟนอินเข้ามายืนยันว่าจะดูแลเด็กทุกคนให้ถึงที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าทางโรงเรียนก็ไม่ได้มีงบประมาณมากมาย แต่รับปากจะเยียวยาเด็กทุกคนเต็มที่
ส่วนวันที่เกิดเรื่องนั้น ผอ.ชี้แจงว่า กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือดังกล่าว มีนักเรียนเข้าร่วม 600 กว่าคน เป็นเด็ก ม.1 – ม.3 เมื่อทำกิจกรรมภาคเช้าเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน ส่วนเด็กชั้น ม.2 อยู่พักแรม และทำกิจกรรมรอบกองไฟต่อ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นพิธีกรรมซูลู เป็นพิธีเปิดกองไฟ โดยเชื้อเพลิงที่ใช้ชุบคบเพลิงในตอนเกิดเหตุ เป็นแอลกอฮอล์เหลวไม่ใช่น้ำมัน จุดที่จ่ายแอลกอฮอล์กับตัวกองไฟอยู่ห่างกัน แต่ปรากฎว่ามีเด็กคนหนึ่งได้รับไฟไปแล้วน่าจะเข้าใจผิดว่าไฟคบเพลิงตัวเองไม่ติดก็เลยเดินย้อนกลับมา แล้วจ่อเข้าไปรับแอลกอฮอล์เพิ่มจนเปลวไฟลุกพรึ่บขึ้นมา โดนเด็กอีกหลายคนที่อยู่ตรงนั้น
ถึงตรงนี้เมื่อเล่าเสร็จ ผอ.สำเนา ยืนยันเหตุการณ์นี้ตนเห็นกับตา ส่วนที่มีการอ้างว่าทิ้งเด็กไว้หลายนาที ไม่นำส่งโรงพยาบาลทันที ไม่เป็นความจริง เพราะหลังเกิดเหตุ คนขับรถพร้อมครูนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งโรงพยาบาลก็รั้วอยู่ติดกับโรงเรียนเลย
