เปิดไทม์ไลน์ ครูเทียม โดนจับ อนาจารเด็ก 16 ลวงดูถ่ายรายการ-พาไปบ้าน 2 วัน
ไทม์ไลน์ ครูเทียม อนาจารเด็ก 16 ลำดับเหตุการณ์ฉาวตั้งแต่หลอกผู้เสียหายไปดูถ่ายรายการวิทยุ ขับรถมารับพาไปอยู่ด้วย 2 วัน กระทั่งวันเกิดเหตุ อัยการสั่งฟ้อง 3 ข้อหาหนัก ก่อนนัดสืบพยานเดือนหน้า
กลายเป็นข่าวดังที่เล่นเอาหลายคนใจหายหนัก กับกรณี นายชุติเดช หรือ “ครูเทียม” อายุ 60 ปี คอมเมนท์เตเตอร์ นักออกแบบท่าเต้นให้กับนักร้องและแดนซเซอร์จากรายการทีวีชื่อดัง ก่อคดีพรากผู้เยาว์ โดยพาไปกระทำอนาจารที่ห้องพักแห่งหนึุ่งใน จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565
กระทั่งต่อมา ตำรวจจากส่วนกลางเข้ามาแกะรอยคดีพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีการขอหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อเข้าตรวจค้นห้องพักของครูเทียม ในจุดเกิดเหตุที่ จ.บุรีรัมย์ โดยจากการเข้าตรวจค้นเก็บหลักฐานจากบ้านพักดังกล่าว ได้เจอครูเทียมอยู่ในบ้าน จึงทำการสอบสวน เบื้องต้นเจ้าตัวก็ยอมรับว่ากระทำจริง แต่ทำไปเพราะรักลูกศิษย์รายนี้มาก
ไทม์ไลน์ ครูเทียมอนาจารเด็ก 16
สำหรับในส่วนของลำดับเหตุการณ์คดี ครูสอนเต้นแถวหย้าของเมืองไทย ล่อลวงเยาวชนผู้เข้าแข่งขันในรายการไปกระทําอนาจารที่บ้านของตนเอง อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คดีนี้เริ่มจาก
- ผู้เสียหายไปถ่ายทํารายการโทรทัศน์ รายการหนึ่ง และได้รู้จักผู้ต้องหา
- ผู้ต้องหาติดต่อหาผู้เสียหาย ผ่านเฟซบุ๊ค และทางโทรศัพท์มีการพูดคุย ในทํานองเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ
- นัดหมายผู้เสียหาย โดยอ้างว่าพาไปศึกษาดูการทํารายการคลื่นวิทยุ
- ขับรถมารับผู้เสียหายที่บ้าน จว.นครราชสีมา โดยจะพาไปอยู่ด้วย 2 วัน ระหว่างเดินทางมีการพูดเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ
- พาผู้เสียหายมาพักที่บ้าน จว.บุรีรัมย์ พูดเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ และกระทําอนาจารผู้เสียหายที่บ้านพัก แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม
- ครบกําหนด 2 วัน ผู้ต้องหาขับรถพาผู้เสียหายกลับมาส่งที่บ้าน
- ผู้เสียหายเข้าแจ้งความให้ดําเนินคดีกับผู้ต้องหา
สำหรับข้อกล่าวหาล่าสุด อัยการได้มีการสั่งฟ้องครูเทียมในความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย
1.พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร
2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด
3. กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ ศาลจังหวัดนครราชสีจะมีการมานัดคู่ความทั้งสองฝ่ายมาสืบพยาน โดยตอนนี้ ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว