ไท ทวีพาณิชย์พันธุ์ บนธุรกิจกัญชา Four Twenty Thailand
คุยธุรกิจกัญชากับ ไท ทวีพาณิชย์พันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของร้าน Four Twenty Thailand สัมภาษณ์ถึงประเด็นต่างๆ ตั้งแต่ เปิดร้าน ลงทุน พัฒนาสายพันธุ์ การขอใบอนุญาต และทั้งหมดที่เกี่ยวกับพืชสมุนไพรชนิดนี้
“เดอะ ไทยเกอร์” (TheThaiger) ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ไท ทวีพาณิชย์พันธุ์ (Tai Taveepanichpan) นักธุรกิจกัญชาหนึ่งในเจ้าของร้าน Four Twenty Thailand
เนื้อหาทั้งหมดเป็นการเรียบเรียงข้อมูลจากเนื้อหาเทปสัมภาษณ์ที่แขกรับเชิญ วัย 28 ปี ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับรายการ Thaiger Podcast Ep.4 ถึงประเด็นแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่ ประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับกัญชา , ตลาดกัญชาในประเทศไทย , การเปลี่ยนจากผู้บริโภคเป็นผู้จัดจำหน่าย , ค่าใช้จ่ายการลงทุน , การขอใบอนุญาติ ตลอดจนสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบัน
หมายเหตุ : บทสัมภาษณ์นี้ได้มีการบันทึกเทปรายการไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2565
ตอนนี้คุณทำเงินได้เท่าไหร่ ? หนึ่งในคำถามที่ “เจย์” พิธีกรประจำTheThaiger ยิงข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นธุรกิจพืชสมุนไพรที่กำลังเป็นกระแสเติบโตทั้งความนิยมในแง่การบริโภคและการผลิต หลังกฎหมายปลดล็อกกัญชา 9 มิถุนายน 2565 ทำให้คำว่า “กัญชา” ไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป
“วันนี้ คุณอาจสามารถสร้างรายได้ที่ประมาณ 100 ล้านต่อปี !” คำตอบจาก ไท นักธุรกิจหนุ่มที่ปัจจุบันร้าน Four Twenty Thailand ของเขามี 2 สาขาด้วยกัน (อโศก, สุขุมวิท 22) ได้กล่าวถึงมูลค่าโดยสมมติฐานที่อาจสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในตอนนี้ ก่อนจะเล่าต่อถึงหลักคิดในการทำงานที่เขาพุ่งความสนใจอยู่
“เป้าหมายของเรา คือ การมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม นั่นคือ สิ่งที่เราโฟกัสกับมัน” ไท ระบุ
เปลี่ยนจากผู้บริโภค เป็น ผู้ให้บริการ ธุรกิจกัญชา ?
คำถามต่อมาจาก เจย์ พิธีกรที่ยังคงเสาะหาคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจในบางประเด็น โดยเที่ยวนี้ลงรายละเอียดไปที่ปัจจัยที่เป็นเหมือนประตูบานแรกซึ่งทำให้ชายวัย 28 ปีในปัจจุบบัน เปลี่ยนจากผู้บริโภคมาเป็นผู้ให้บริการกัญชา
“สำหรับผมมันเป็นการเดินทางที่ยาวนาน ผมเคยเห็นว่ามันส่งผลเสียกับคนยังไง หากคุณเป็นสโตนเนอร์ (Stoner) แล้ว ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญในชีวิตได้ ในจุดนี้ผมจึงมีมุมมองในด้านลบเกี่ยวกับพืชชนิดนี้อยู่” ไท ทวีพาณิชย์พันธุ์ กล่าว
*** Stoner = คนที่สูบกัญชาเป็นประจำ
“แต่เมื่อผมเรียนรู้กับมันมากขึ้น มากขึ้น ในที่สุดผมก็เปิดใจ เข้าใจว่า ตัวผมนั้นไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าพืชชนิดนี้เลย โดยเฉพาะกับประเด็นที่ว่า กัญชา สามารถนำมาใช้เป็นยา ได้อย่างไร” ไท ยอมรับในการให้สัมภาษณ์กับรายการพอดแคสต์เดอะไทยเกอร์ว่า หลังจากที่เริ่มทราบข้อมูล “กัญชา” ใช้เป็นยารักษาได้ ก็ส่งผลให้การหาความรู้เพิ่มเติมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา
หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจกัญชาหน้าใหม่ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อได้ศึกษาเรื่องราวและข้อมูลชุดใหม่ ๆ เพิ่ม
จากจุด ๆ นั้น ก็เริ่มเกิดเป็นความหลงใหล เพราะด้วยพื้นฐานเป็นคนชื่นชอบเรื่องพืชนี้เป็นทุนเดิม
การพูดคุยมาถึงตอนที่ เจย์ พิธีกรของเรา ปล่อยหมัดฮุคใส่นักธุรกิจกัญชาว่า หาก “เจย์ TheThaiger” อยากจะเริ่มทำธุรกิจนี้บ้าง ! แขกรับเชิญมีอะไรที่จะแนะนำได้บ้าง และต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่ ?
“มันค่อนข้างอธิบายยากพอสมควร เพราะมีรายละเอียดยิบย่อยที่ต้องเจาะจงลงไป เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกต้องขนาดเท่าไหร่ สมมติขนาดกลาง 1 พันต้น รวมค่าจ้างพนักงานต่อเดือน ค่าอุปกรณ์สิ้นเปลือง หากในสเกลนี้อย่างน้อยๆ ค่าใช้จ่ายที่คุณต้องมีจะอยู่ที่ราว 2 แสน – 1 ล้านบาทต่อเดือน”
หรือง่าย ๆ คุณอาจต้องมีเงินลงทุนในราว 15 ล้านบาท สำหรับการจะเริ่มต้นมันจริงๆ ไท ตอบคำถามพิธีกรของเรา โดยสมมติหากต้องการจะเริ่มธุรกิจนี้ในขนาดของธุรกิจขาดกลาง ต้องเสียตค่าใช้จ่ายต่อเดือนเป็นจำนวนเท่าไหร่
ไท ยังเผยภาพที่ชัดขึ้นให้กับผู้ที่กำลังมีความคิดอยากกระโจนเข้ามาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจกัญชา โดยเน้นย้ำประเด็นที่ว่า มันไม่ใช่แค่มีเงินลงทุนเปิดธุรกิจ แล้วความหมายนั้นจะเท่ากับว่า คุณกำลังทำธุรกิจนี้อยู่
หากยึดเพียงแค่เงินลงทุน พ่อค้ากัญชารุ่นใหม่ของเราค่อนข้างมั่นใจว่า แค่เงินลงทุนก้อนแรก !! ย้ำว่า เพียงทุนก้อนแรกเท่านั้นไม่พอ เพราะหลังจากนั้น มันจะมีรายจ่ายต่อเดือนตามติดมาเป็นเงา
คุณเคยรู้สึกเหมือนถูกประเมินต่ำไปหรือดูถูกสิ่งที่คุณกำลงัทำอยู่นี้หรือไม่ ? เจย์ พิธีกรของเราถามต่อ
“ใช่ ถ้าเป็นเมื่อ 2-3 ปีก่อน คุณไม่สามารถบอกคนอื่นได้ทั้งหมด เพราะบางอย่างยังมีกฎข้อห้ามของมันอยู่ แต่อยู่ ๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา คนที่อยากลงทุน อยากเปิดร้านจำหน่าย อยากมีฟาร์มเป็นของตัวเอง กลายเป็นสิ่งที่จะทำได้อย่างถูกต้อง” คำตอบที่แขกรับเชิญซึ่งพอจะสรุปข้อสงสัยได้สำหรับบางแง่มุมคำถามของการประกอบอาชีพธุรกิจกัญชาในปัจจุบัน หรือ ณ เวลานี้ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากในระยะเวลาเพียงแค่ 2-3 ปี
“ใช่ มันค่อนข้างดูจะเป็นเรื่องเหนือจริงมากทีเดียว แต่มันก็เป็นจริงขึ้นมาแล้ว”
“อย่างตอนนี้ที่คุณกำลังถามว่า การเป็นผู้ประกอบการและการบุกเบิกในอุตสาหกรรมกัญชาไทยกับผมนั้น มันเป็นอะไรที่เหนือจริงมาก ทุกวันนี้ ตื่นมาทุกวัน ผมยังคงรู้สึกว่า มันค่อนข้างเหนือจริง”
“ผมแค่พยายามเพ่งความสนใจกับสิ่งที่ต้องโฟกัส ผมมีเป้าหมาย ผมรู้ว่าตัวเองกำลังพยายามทำอะไร รู้ว่ากำลังจะไปที่ไหน และนั่นคือสิ่งที่ผมทำงาน” ไท ระบุ
“กัญชา” ไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้อย่างไร ?
พิธีกรของเรา ไม่ได้ถามตรงๆ แบบนี้ แต่ได้ลองเปรียบเทียบหาก กรุงเทพฯ จะเป็นแบบ อัมสเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์
ไท ตอบประเด็นนี้ โดยในมุมของนักธุรกิจรุ่นใหม่ เขามองว่า “กัญชา” จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจ่ายราคาค่าบริการหรือสินค้าที่สูงขึ้นและจุดนี้ก็ดูจะสอดคล้องกับแนวทางของการท่องเที่ยวแห่งประเศไทย (ททท.) หากมองในแง่การยกระดับกลุ่มเป้าหมายซึ่งก็คือ “นักท่องเที่ยว” ที่จะเข้ามาในประเทศ
คุณทำเงินได้เท่าไหร่ จากธุรกิจนี้ ?
“โอเค เรากำลังพูดถึงศักยภาพของบริษัทกัญชาที่จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคุณ ขอย้อนกลับไปตอนที่เราสมติกันถึงการเริ่มธุรกิจในสเกลระดับกลาง” นักธุรกิจผู้ปลุกปั้นแบรนด์ Four Twenty Thailand กล่าว
“ปลูก 1 พันต้น อาคารประเภท 600 x 800 ตารางเมตร ราคาที่จะหาได้จากมัน คุณอาจทำได้ประมาณ 100 ล้านต่อปี ใช่ มันฟังดูดี แต่การจะไปถึงตรงนั้นจริง ๆ รายละเอียดบางอย่างมันก็ต่างกับตอนที่คุณเขียนบนกระดาษ”
“เพราะเอาจริงๆ การดำเนินการ หรือ ลงมือทำมันจริงๆ นั้นไม่ง่าย จริงอยู่ว่าในปีแรกคุณจะต้องหมดเงินลงทุนก้อนโต แต่หลังผ่าน 2-3 ปี คุณมีรายได้บางส่วนกลับคืนมา และในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ต้องการจะขยายขนาดธุรกิจ เอาแค่นี้คุณก็สามารถมีความสุขกับการทำธุรกิจขนาดกลางที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณระดับหลายล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ไท ดึงพวกเรากลับมาสู่ปัจจุบัน เมื่อย้ำว่า ราคาที่ทำได้ที่พูดไปเมื่อสักครู่ เขาหมายถึงมันคือราคาของวันนี้
แต่อย่าลืมว่า ตอนนี้ใครก็สามารถปลูกมันเองได้ที่บ้าน ดังนั้นอีกไม่นาน กัญชา ก็จะเข้าสู่ช่วงที่อุปทานจะสูงมากและเมื่ออุปทานสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ราคาของตัวมันเองก็จะลดลง และใช่ นั่นจะไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณ แต่มันคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้แต่ ตลาดยุโรป ที่มีความต้องการในปริมาณที่มาก ราคาต่อปอนด์ของมันอยู่ที่ประมาณ 500 – 2000 ดอลลาร์ต่อปอนด์
แล้ว Four Twenty Thailand ของคุณแตกต่างจากร้านขายกัญชาทั่วไปอย่างไร ? เมื่อตอนนี้คุณบอกเองว่าใครก็สามารถเข้ามาเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้านี้ได้ ถ้าได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แล้วราคาที่มีตั้งแต่ 400 บาท ไปจนถึง 1000 บาทต่อกรัม มันมีอะไรพิเศษ ?
“ประเด็นที่ว่าทำไมราคาถึงต่างกัน ผมมองว่า กัญชามีเรื่องของสุนทรียภาพค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องของกลิ่น รสชาติ เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันทั้งร่าเริง สงบ ผ่อนคลาย แต่ราคาส่วนใหญ่ก็จะขึ้นกับความแรง อย่างที่อเมริกา ยิ่ง THC (Tetrahydrocannabinol) สูง ก็จะยิ่งราคาดี
“แต่เราก็พยายามสร้างความแตกต่างด้วยการตั้งราคาตามตัวแปรที่มากขึ้น เช่น การแบ่งตามสายพันธุ์และเอฟเฟกต์ที่ต่างกันออกไป” ไท ตอบคำถาม พร้อมเริ่มอธิบายความแตกต่างในการทำตลาดกัญชาในรูปแบบของเขา
นักธุรกิจหนุ่มกล่าวอีกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาอีกแห่งกำลังขยายตัวและเตรียมจ้างพนักงานเพิ่มอีก 20 คน ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ใช่ เขายอมรับว่า เคยเสียค่าจ้างมาแล้วทั้ง เกษตรกร ที่ปรึกษา วิศวกร นักออกแบบ ช่างก่อสร้าง
หลังจากกฏหมายปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดแล้ว แขกรับเชิญของเรามองว่า โดยพื้นที่ฐานใครก็สามารถเข้าสู่เส้นทางนี้ได้ทั้งนั้น ถ้าคุณหลงใหลมันเพียงพอ
ไท กล่าวว่า ท้ายที่สุดทุกคนสามารถก้าวเข้ามาเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ได้ด้วยกันทั้งหมด
ดังนั้น การสร้างความแตกต่างของเขา อาจจะเป็นการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้คนและจัดลำดับความสำคัญของมัน
เช่น การบริการ การทดสอบปริมาณสาร ความหลงใหลในพืชชนิดนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นงานที่นักธุรกิจ วัย 28 ปี ได้มาพูดคุยและบอกเล่าถึงประสบการณ์บนถนนธุรกิจกัญชา ที่เขายอมรับว่า เพราะหลงใหลมันจึงตัดสินใจทำให้มันเกิดขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการฟังเทปสัมภาษณ์ ไท ทวีพาณิชย์พันธุ์ เกี่ยวกับธุรกิจกัญชา สามารถรับชมการพูดคุยฉบับเต็มได้ที่รายการพอดแคสต์ Thaiger Podcast Ep.4
คลิป : The Thaiger
- เปิดชื่อประเทศกัญชาถูกกฎหมาย 2565 เช็กให้ชัวร์
- อธิบายชัดซื้อกัญชาผิดไหม ปี 2565 วิธีซื้อถูกกฎหมายไม่โดนจับ
- เคาะแล้ว ห้ามสูบกัญชาในรร.-ที่สาธารณ มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี