ป้าร้องสื่อหลังหลานสาว ถูกข่มขืนต่อหน้าเพื่อน 30 คน เผยโรงเรียนสั่งปิดข่าว ขณะที่ร้องศึกษาธิการแล้วไม่มีความคืบหน้า
น.ส.เอ ชาวบ้านใน อ.เมืองเลย จ.เลย ได้ร้องสื่อว่าหลานถูกนักเรียนชายข่มขืนต่อหน้าเพื่อน 30 คน ภายในที่หอกักตัวเด็กหญิงที่ติดโควิด-19 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อช่วงวันที่ 24 ส.ค. 65 เวลา 23.00 น แต่ทางโรงเรียนขอให้ปิดข่าว จึงไปร้องกระทรวงศึกษาธิการ แต่เรื่องไม่คืบ จึงมาร้องกับสื่อ
ผู้เป็นป้าเล่าว่าทางโรงเรียน มีเรื่องชู้สาวในหอพัก ให้ผู้ปกครองมาพบ โดยทางรอง ผอ. และครูฝ่ายปกครองแจ้งว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสมยอมของเด็กนักเรียนที่นัดเพื่อนชาย และสรุปว่าเป็นเหตุสมยอมไม่ใช่เหตุข่มขืนต่อหน้าเพื่อน 30 คน โดยทางโรงเรียนจะให้ออก แต่กลัวเด็กเสียอนาคต จึงให้โอกาสเด็กเรียนต่อ โดยยื่นขอเสนอให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้ทางโรงเรียนฉีดยาคุมไว้
เธอจึงไปร้องกับกระทรวงศึกษาธิการและมูลนิธิปวีณา แต่ไม่ได้รับคำตอบจากกระทรวง เข้าแจ้งความต่อ พงส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กในวันที่ 27 ก.ย. 65
ด้านหลานสาวเล่าว่า เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65 ประมาณเกือบเที่ยงคืน มีนักเรียนชาย 4 คน ขึ้นมาที่หอพักกักตัวเด็กนักเรียนหญิงที่ติดโควิด-19 กว่า 30 คน
ขณะที่นอนอยู่นั้น เห็นมีนักเรียนชายกลุ่มเดิม มาด้วยกัน 6 คน มานอนกับนักเรียนหญิง 5 คน เหลือคนที่ 6 หรือ นายบุญหลาย (นามสมมุติ) เข้ามาบังคับข่มขืนต่อหน้าเพื่อน จนสำเร็จความใคร่ จากนั้นหลังเสร็จแล้วพร้อมด้วยเพื่อนอีก 5 คน ได้ออกจากหอพักไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนนักเรียนหญิงที่เหลือไม่กล้าร้องโวยวาย เพราะโดนกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ ไม่ให้ยุ่ง ไม่งั้นจะตามมาเล่นงาน จากนั้นครูเรียกไปสอบถาม และบังคับให้บอกกับผู้ปกครองว่าเป็นการสมยอม
ด้าน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์เหตุข่มขืนต่อหน้าเพื่อน 30 คนว่า ก็ได้นำตัวนักเรียนหญิงส่งให้แพทย์โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ตรวจร่างกาย โดยผลตรวจยังอยู่ระหว่างรอแพทย์แจ้งผลกลับ ส่วนการดำเนินคดีนั้นเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเยาวชนจึงต้องมีการสอบปากคำจากสหวิชาชีพ
เบื้องต้นได้นัดผู้เสียหายพร้อมญาติ เข้ามาสอบปากคำในวันที่ 27 ก.ย. และหากผลตรวจยืนยันครบถ้วนแล้ว ก็จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับเยาวชนชายที่ก่อเหตุข่มขืนต่อหน้าเพื่อน 30 คนได้
