สาวเล่าอุทาหรณ์! ฝากเงิน 3 แสน จู่ๆ หายเกลี้ยง ประกาศสู้สุดใจท้าชนธนาคารชื่อดัง พร้อมเตือนวิธีปกป้องข้อมูล
สาวแชร์ประสบการณ์เงินฝาก 3 แสนบาท หายไปทั้ง ๆ ที่ตนเองกำลังนอนอยู่ ทวงถามธนาคารชื่อดังไร้ความคืบหน้า ก่อนแจ้ง ธปท.ต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม พร้อมเตือนวิธีปกป้องข้อมูล
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2565 เวลา 09.43 น. ในโลกออนไลน์จากเฟซบุ๊กกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว” พบหญิงสาวรายหนึ่งใช้เฟซบุ๊ก “Bowvy Boom Boom” โพสต์เล่าถึงสถานการณ์ที่ตนกำลังเผชิญอยู่หลังจากเงินฝากในธนาคารหายไป 3 แสนบาท โดยระบุรายละเอียดว่า “กรณีของเรานอนๆอยู่เงินในบช.ถูกถอนไปให้ใครก็ไม่รู้ โดยที่เราไม่ได้ทำ”
“แจ้ง call center ก็ทำแล้ว แจ้งความก็แจ้งไปแล้ว ธนาคารบอกรอ 5 วัน ผ่านไปหนึ่งเดือน มีหนังสือปฏิเสธมาบอกว่าเราถอนเอง จากโทรศัพท์เครื่องนี้ ยี่ห้อนี้ แค่นั้น ย้ำแค่นั้นจริงๆ ไม่มีหลักฐานอื่นใดประกอบ ที่ยืนยันว่าเราเป็นคนทำ ในขณะที่เรามีเอกสาร และหลักฐานของเราที่ขอมาจากธนาคาร และจากที่เรารวบรวมมาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เป็นสิบกว่าแผ่นที่ร้องเรียนผ่านธปท.ไป รอบที่สาม ซึ่งวันก่อนธปท.บอกว่า เตรียมใจไว้หน่อยนะ เตรียมหาวิธีอื่นต่อไปเพราะธนาคารน่าจะไม่ยอมรับ
??จะแถไปถึงไหน ทั้งๆที่เราคิดว่ามีข้อโต้แย้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองพอสมควร และอยากเล่าให้เพื่อนๆทราบ แล้วลองพิจารณาให้หน่อยว่า แบบนี้คือเราโอนเองเหรอ
1.เราเข้าใช้แอปพลิเคชั่นไม่ได้ แต่มีคน log in เข้าไปใช้แอปของเรา และถอนเงินเราได้อย่างไร
2.ธนาคารรีบให้ลบแอป ทั้งๆที่เราขอแค่ระงับการใช้เพราะยังมีเงินเหลือในบช. แต่ธ.คะยั้นคะยอ ให้ลบเท่านั้น ทำให้เราไม่มีข้อมูลอะไรเหลือเลย (?ใครอย่าหาทำนะ ต้องไม่ลบเท่านั้น)
3.ปกติในการถอนเงินทุกครั้งเราจะต้องได้รับสลิปและอีเมล์แจ้ง และเราเก็บสลิปทุกครั้งที่เราโอนเงิน แต่ครั้งนี้เราไม่ได้รับสลิป และอีเมล์แจ้ง
4.เรามีชื่อ ที่อยู่ คนที่รับโอนเงินเรา ที่เราแจ้งความไว้ เห็นหน้าแล้ว เรายืนยันว่าไม่รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องใดๆ ให้ธ. ดำเนินการทางกฏหมายได้เลย แต่ธ.ไม่สนใจ ไม่ติดตาม บอกแต่เพียงว่า เราโอนเอง ระบบธ.ไม่มีปัญหา ถามหน่อยเราจะโอนไปให้ใครก็ไม่รู้ ที่หน้าตาเหมือนโจร เพื่อ…??
5.ช่วงเวลาที่โอนคือ 23.34 น.ถ้าเราโอน ต้องนั่งถ่างตารอเวลาดึกๆทำไม โอนกลางวันสะดวกกว่ามั๊ย และเรามีนาฬิกาข้อมือออกกำลังกายที่ติดตัวตลอดไม่เคยถอดแม้เวลานอน ซึ่งในวันนั้นนาฬิกาไม่มีการเคลื่อนไหวเพราะ เรานอนแล้วตั้งแต่ 21.26 น.
6.เมื่อเราขอข้อมูลสำคัญๆจากธ.เช่นMac address,IMEI ที่เป็นเหมือนบัตรปชป.ของเครื่องโทรศัพท์ แต่ธ.ตอบว่าไม่มี ไม่ได้เก็บ ของสำคัญไม่เก็บแล้วเก็บอะไร เวลาเกิดเคสแบบนี้เอาอะไรมาพิสูจน์ให้ลูกค้าได้บ้างมั๊ย
7.เราขอ IP Addressไป ให้พิกัดมา เราเอาไปหาจากกูเกิล พิกัดอยู่กทม. อยู่ฉะเชิงเทราซึ่งเป็นคนละที่กับที่พัก ที่ทำงานเรา ซึ่งไม่สัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันกับเราเลย
8.เอกสารที่ขอจากธนาคาร เรื่องการส่ง e-slip ที่แจ้งมาเมื่อมีการถอนเงิน คือแจ้งมาที่เบอร์เหมือนของเราเป๊ะ แต่ไม่ใช่เครือข่าย ของโทรศัพท์ที่เราใช้และเราก็ไม่ได้รับ e-slip ด้วย
ทุกข้อที่กล่าวมา เรามีเอกสารประกอบทุกแผ่น ณ วันนี้เรายังไม่รู้ชะตากรรมว่าแบงค์จะตอบว่าจะคืนเงินเราหรือไม่ หากใครมีคำแนะนำ ว่าควรจะสู้และรับมือกับแบงค์แบบนี้ต่อไปยังไงหากเค้าไม่คืน แนะนำได้นะคะยินดี อยากได้ทนายเก่งๆ ที่มีความรู้ด้าน ITด้วย เราอยู่จังหวัดเล็กๆที่ไม่ค่อยมีกรณีแบบนี้ หาทนายยากมาก คงไม่มีทางสู้กับทนายของแบงค์ได้
ปล.แบงค์ไหน อย่าถามเพราะเราตัดบัวไม่เหลือใย และเราไม่มีเพื่อนที่ไม่คู่คิด และเป็นมิจฉาชีพคู่บ้านแบบนี้หรอก”
ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค. 2565 เวลา 17.39 น. ผู้โพสต์ได้โพสต์ประกาศสู้กับธนาคารชื่อดังเพื่อความยุติธรรม โดยระบุว่า “??เมื่อสื่อเห็นใจ และให้ความสำคัญกับคนตัวเล็กๆ ที่อยู่จังหวัดเล็กๆ ต้องหาหนทางต่อสู้กับองค์กรยักษ์ใหญ่เพียงลำพัง กราบขอบพระคุณนะคะ”