ข่าวข่าวการเมือง

‘ไฮโซลูกนัท’ เดือด ประกาศเตรียมฟ้อง ผกก.ลุมพินี กรณีตรวจค้นคอนโด ‘ปริญญ์’

ไฮโซลูกนัท โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เตรียมฟ้อง ผู้กำกับ สน.ลุมพินี ส่อทำสำสำนวนหลวม หลังเชิญแอนนาเข้าไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยไม่ให้ตนขึ้นไปด้วย

นาย ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจ สน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางไปยังคอนโดมิเนียมของ นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเก็บหลักฐานเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มเติม

ในการเก็บหลักฐานนั้น แอนนา ภรรยาของไฮโซลูกนัท ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความนาย ปริญญ์ ได้ถูกเรียกให้ขึ้นไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่ทางผู้เป็นสามีไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปร่วมต้นค้นด้วย

โดยไฮโซลูกนัทระบุว่า “ในเหตุการณ์เมื่อวาน ตำรวจ ได้หลอกลวง แอน รวมไปถึงสื่อมวลชน ให้เข้าไป “ชี้จุดเกิดเหตุ” นั้นเป็นสาเหตุเดียวที่ ผมและแอน ไปที่สถานที่เกิดเหตุ จากการที่ ตำรวจ สน ลุมพีนี เรียกให้ไปชี้ พอไปถึงก็ไม่ให้ชี้ แต่ หลอกให้ชี้ข้างล่าง เป็นการพยายามให้สำนวนหลวม

มากไปกว่านั้น ผ่านมาหลายวันมากๆแล้ว ยังจะพึ่งไป เป็นใครๆ คงทำลายหลักฐานทิ้งหมดแล้ว ซ้ำทนายของผู้ต้องหา ก็ยังอยู่บนห้องกับตำรวจ ส่อแววรวมมือกันทำอะไรซักอย่าง – เห็นได้ชัดว่าการที่ ทนายผู้ต้องหา และตำรวจทำ คือการพยายามที่จะทำลายสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ให้สติแตกและหมดแรงสู้ การกลับมาที่จุดเกิดเหตุเป็นเรื่องที่จะทำร้ายสภาพจิตใจของผู้เสียหายได้มากๆ เป็นที่รู้ดี ผู้เสียหายรู้ จิตแพทย์รู้ คน และ ประเทศเจริญๆแล้วรู้ แต่ตำรวจไทย ไร้ความเจริญ ใช้สิ่งนี้มากลั่นแกล้งผู้เสียหายของเรา ในการเรียกให้มาชี้ซ้ำๆ เพราะท้ายสุดแล้ว ก็ต้องย้อนภาพจำในวันนั้น เพื่อมาชี้จุดเกิดเหตุในวันต่อมาอยู่ดี

เรื่องต่อไป ได้มีการอ้างถึง “หมายคุ้มครอง” ของศาล ซึ้งไม่มีอยู่จริง ขอพูดก่อนว่า ในตอนแรกตำรวจบอกว่า จะให้ขึ้นไป ขอให้การพิสูจน์หลักฐานทำงานเส็ดก่อน (สื่อมวลชนเป็นพยาน) และแล้วไม่นานก็กลับคำโกหกแรกด้วยคำโกหกสองว่า ทนายของผู้ต้องหา ขอสิทธิ์คุ้มครอง ไม่ให้ขึ้นไป – พอถามหาขอดูหมาย ได้ทำท่าทีจะให้ดู แต่ก็ไม่ให้ดู – หลังจากนั้น ตำรวจแก้ตัวกับสื่อมวลชนว่า ศาล อนุญาตแค่เจ้าหน้าที่ หากแต่ว่า แท้จริงแล้วในขบวนการ ยุติธรรม ศาลได้ให้อำนาจพนักงานสอบสวนทำตามหน้าที่เต็มที่ แปลว่าแม้ผู้เสียหายไม่ได้มีชื่ออยู่ในรายชื่อหมายค้น ตำรวจย่อมมีสิทธิ์ใช้ดุลพินิจ พาผู้ต้องหาขึ้นไปถ่ายรูปประกอบหลักฐานให้รัดกุม ปฏิเสธการคัดค้านของทนายผู้ต้องหา (ได้ confirm อำนาจของเจ้าหน้าที่โดยศาลแล้ว)

ดังนั้นเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก การที่ ตำรวจ และ ทนาย ของผู้ต้องหา ร่วมมือกัน กลั่นแกล้ง ผู้เสียหาย ผมจึงเห็นสมควรที่จะฟ้องดำเนินคดี ม.157 กับ ผกก สน ลุมพีนี และ ทนายของผู้ต้องหาใน กฎหมาย มาตรา ที่เกี่ยวข้อง

ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนที่เป็นพยานหลักฐานให้ในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกันครับ นรกส่งมาเกิดแบบนี้ ไม่ขอมีความสุภาพให้นะครับ ที่ผ่านมามีให้เยอะเกินไปแล้ว”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button