กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ งดดื่มในร้าน และปรับโซนสี 10 จังหวัดใหม่ หลังยอดผู้ป่วยโควิดพุ่ง
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงประกาศยกระดับมาตรการแจ้งเตือนภัยสาธารณสุขจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ โดย นพ.โอภาสระบุว่า ต้องย้ำว่าเป็นการเตือนภัยจากการประเมินภาพรวม
โดย สธ.ต่างกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จะประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงตามระดับสี โดยจะมีมาตรการต่างๆ เช่น ห้ามทำกิจกรรม ขณะนี้ สธ.ยกระดับเป็น 4 ความร่วมมือจากทุกคนกับภาครัฐ
1.งดไปสถานที่เสี่ยง งดรับประทานอาหาร ดื่มสุราในร้านอาหาร เช่น สถานที่ระบบอากาศไม่ดี คนแออัด สวมหน้ากากอนามัยน้อยมาก หรือมีคนไม่สวมหน้ากากอนามัย เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ 2.กิจกรรมที่คนร่วมกันมาก ขอให้เลี่ยงหรืองด 3.การเดินทางข้ามจังหวัด ขอให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็น เช่น หากเดินทางด้วยรถสาธารณะจะต้องระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย ตรวจ ATK ที่ต้องเดินทางนานๆ โดยจะเสนอ ศบค.ในเรื่องนี้ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะประชุมในวันที่ 7 มกราคม ขณะนี้ถ้าดูสถานการณ์จะมีอยู่ 10 จังหวัดที่มีอัตราการติดเชื้อเกิน 100 รายต่อวัน แต่ก็จะต้องประเมินอีกครั้ง ส่วนมาตรการที่จะเข้าไปดำเนินการนั้นเบื้องต้นกรณีสีแดง สีแดงส้ม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นทำไม่ได้หากพื้นที่ไหนถูกยกระดับก็ทำไม่ได้
นพ.โอภาสกล่าวว่า ภาพรวมการติดเชื้อในประเทศแต่ละจังหวัด พบว่า จ.ชลบุรี มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก 769 ราย ตามด้วย จ.สมุทรปราการ 494 ราย และ กทม. 454 ราย สังเกตได้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวมีคนเดินทาง รวมถึงมีการเกิดคลัสเตอร์ต่างๆ เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ที่ดื่มสุราผิดมาตรการ พบในหลายที่ เช่น จ.อุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีแล้ว ภาพรวมการติดเชื้อแนวโน้มเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ว่าหากไม่มีมาตรการ จะพบผู้ติดเชื้อเกินวันละหมื่นรายได้เร็ววันนี้
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง เกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันอาการรุนแรง จึงขอให้ทุกคนมารับตามกำหนด สรุปปัจจัยเสี่ยงมาจากช่วงเทศกาลที่ผ่านมา เข้าสถานที่เสี่ยง สถานที่ทำผิดกฎหมาย เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ ที่มีความแออัด มีงานเลี้ยง งานบุญ รวมถึงเมื่อหมดเทศกาลคนเริ่มเดินทางกลับมาทำงาน ดังนั้นช่วงนี้ขอให้งดไปร้านอาหารกึ่งผับบาร์ สถานที่เสี่ยง ที่แออัด
ขณะที่ สธ.อยากเปลี่ยนระดับการเตือน จากเดิมระดับ 3 เป็นการเตือนระดับ 4 คือมีข้อแนะนำเพิ่มขึ้น มาตรการต่างๆ คงตามมา คือ 1.อาจมีการปิดสถานที่เสี่ยง ที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ มีการเพิ่มมาตรการต่างๆ ให้มากขึ้นในสถานที่เสี่ยง 2.ชะลอการเดินทางต่างๆ เช่น การทำงาน จึงอยากให้ Work from home
หากไม่จำเป็นในการเดินทางข้ามจังหวัด ก็อยากให้ประชาชนชะลอไปก่อน 3.การจำกัดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ ต้องมีมาตรการเคร่งครัดมากขึ้น รวมกลุ่มให้ลดลง ไม่ให้แพร่เชื้อ และ 4.ปฏิบัติตามมาตรการ VUCA คือ Vaccine-Universal Prevention-Covid-19 free setting และ ATK
“ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลง แต่การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ด้วยการเข้าใช้บริการสถานที่ระบบปิดในร้านอาหารกึ่งผับบาร์ มีกิจกรรมงานเลี้ยง งานบุญทางศาสนาที่อาจจะมีการระวังไม่เพียงพอ จึงทำให้การระบาด การเดินทางต่างๆ ก็มีผลต่อการแพร่กระจายเชื้อ
อยากให้ประชาชนที่กลับมาจากต่างจังหวัดได้เฝ้าระวังอาการตัวเอง อย่างน้อย 14 วัน หากทำงานจากที่บ้านได้จะดีมาก โดยเฉพาะในสัปดาห์แรก ตรวจ ATK เป็นประจำ เพื่อให้เราพบเชื้อได้เร็ว และควบคุมป้องกันอย่างรวดเร็ว” ปลัด สธ.กล่าว
- โควิดไทยวันนี้ 7 ม.ค. 65 ติดเชื้อเพิ่ม 7,526 ราย ดับ 19 ศพ
- ปาร์ตี้บ้านอนุทิน ไม่ใส่หน้ากาก โซเชียลเดือด ก่อนหน้า โทษประชาชนละเลยมาตรการ
- ‘อนุทิน’ เผย สธ. เตรียมเสนอ ศบค. เลื่อน Test&Go ถึง 31 ม.ค.
