ข่าวภูมิภาค

โหดได้โล่ห์! ตร.ภูเก็ตเร่งล่าตัว 2 วัยรุ่นอารมณ์ร้อนทุบรถกู้ชีพ เหตุไม่พอใจถูกบีบแตรเตือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้(23 พ.ค.62 )ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “Kaew Detnarong” หรือ นาย เดชณรงค์ ส่งแสงซึ่งเป็นทนายความ และเป็นอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้โพสต์ภาพนิ่งและวีดิโอคลิปความยาวประมาณ 04.34 นาที พร้อมข้อความระบุว่า “ฝากตามหาตัวกันหน่อยครับ มีคลิปกล้องหน้ารถหลังรถ วันที่ 20 พ.ค. 62 เวลาประมาณ 16.45 น. ผมได้ขับรถพยาบาลอาสาสมัคร รหัส เทพกระษัตรี 05 จากนาคามุ่งหน้าแยกเซ็นทรัล พอขึ้นจากอุโมงค์หน้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ก็วิ่งอยู่เลนขวาสุด แล้วก็เปลี่ยนเข้าเลนกลาง เมื่อเข้าเลนกลางแล้ว องกระจกมองข้างด้านซ้าย เีห็น จยย. จากเลนซ้ายจะแซงรถกระบะสีแดง จึงได้บีบแตรเตือน เพราะรถเกือบจะชนด้านซ้ายของรถพยาบาลแล้ว ปรากฏว่าคนซ้อน จยย. ได้ใช้ของแข็งขว้างใส่กระจกหลังรถพยาบาล ผมจึงชะลอรถ คนขับจยย.ได้ขับมาเทียบข้างและบอกให้จอด ผมจึงบอกว่าได้ แต่มองเห็นทางกระจกว่า คนซ้อนได้ชักอาวุธสีดำออกมา จึงได้ขับรถต่อไปไม่จอด แต่เขาก็ขับตามมา และบอกให้จอด ผมก็ขับไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเขาไม่ตามผมจะได้เลี้ยวเข้าโลตัสเพื่อไปซื้อยาใส่รถพยาบาล ปรากฏว่าเขาลงมาจาก จยย.และวิ่งตามมา ผมจึงได้เร่งขับออกไป แต่เขาก็ขึ้นรถขับตามมาขว้างของแข็งใส่กระจกอีกครั้ง แล้วเร่งแซงขึ้นมาทางด้านคนขับ คนซ้อนได้เงื้อมีดจะแทงกระจกฝั่งคนขับ ผมจึงเบี่ยงรถไปหาเขา เพื่อให้เขาหลบออกไป แต่เขาได้เร่งแซงขึ้นหน้ารถ และชี้หน้าด้วยมีดในมือ ผมเห็นว่าเขาไม่ปล่อยผมแน่ ผมจึงได้เบิ้ลเครื่องขู่ แต่เขาใช้มีดแทงหน้ารถ ผมจึงเร่งเครื่องเบียดรถ จยย. เพื่อให้เขากลัว แต่ปรากฏว่าเขาได้ขับไล่ตามมาใช้ขวานฟันกระจกหลังรถและกระจกด้านข้าง ผมจึงได้เร่งเครื่องหนี และมีตำรวจจราจรขับรถอยู่ด้านหน้าไกลๆ เขาเห็นตำรวจจึงเลี้ยวรถกลับไปทางโลตัส มีคนถามว่าทำไมไม่ชน ผมเป็นรถพยาบาล เราถูกฝึกมาช่วยคนไม่ใช่ทำร้ายคน”

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ นายเดชณรงค์ ส่งแสง ผู้โพสต์ ได้เดินทางไปยังสภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เพื่อพบ ร.ต.อ.ณัฐธีร์ พิชิตชัยนิธิเมธ รองสว.(สอบสวน) สภ.วิชิต เพื่อแจ้งความร้องทุกข์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิต และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ติดตามตัวสองวัยรุ่นผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว

Advertisements

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยเพิ่มเติมว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามข้อ กล่าวหาว่า “ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยและทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ”

https://www.facebook.com/Thailanguagenews/videos/612853275895159/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button