ข่าว

สุวินัย เผย ไทย เป็นยูเครน 2 ครึ่งตัว หากปชช.ไม่คัดค้าน ฐานทัพสหรัฐฯ

สุวินัย เผยว่าไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯ หวั่นถูกใช้เป็นฐานยิงแรกในสงครามจีน-สหรัฐฯ และเตือนหากประชาชนไม่ลุกขึ้นคัดค้าน อาจถูกยึดทั้งประเทศ

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงทรรศนะต่อสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบันด้วยความกังวลอย่างยิ่ง โดยระบุว่าประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสถานะ ยูเครน 2 ไปแล้วครึ่งตัว และกำลังเดินซ้ำรอยประวัติศาสตร์ที่อาจนำไปสู่ความพินาศของชาติ หากคนไทยยังคงหลับใหลอยู่กลางสนามรบโดยไม่รู้ตัว

“เมืองไทยตกอยู่ในสถานะ ยูเครน 2 ไปครึ่งตัวแล้ว ยังไม่รู้ตัวกันอีกหรือ บางครั้งชาติพินาศ ไม่ใช่เพราะศัตรูบุก แต่เพราะคนในชาติหลับใหลอยู่กลางสนามรบโดยไม่รู้ตัว

ภาพ รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ภาพจาก: FB/ สุวินัย ภรณวลัย

1. RAND Corporation เตือนแล้ว…แต่เรากลับเฉย

ข้อมูลจาก RAND Corporation สถาบันวิเคราะห์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐที่เป็นเบื้องหลังการวางหมากกลยุทธ์ของกองทัพอเมริกัน เคยระบุไว้ตั้งแต่ปี 2565 แล้วว่า ประเทศไทยคือจุดยุทธศาสตร์อันดับ 1 ที่เหมาะสมต่อการติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางของสหรัฐ ระยะยิง 5,500 กิโลเมตรที่ว่ามานี้ ไม่ใช่แค่ป้องกันภัยใกล้ตัว แต่มันครอบคลุมทุกมณฑลของจีน ตั้งแต่ยูนนานไปจนถึงซินเจียง

พูดให้ชัดคือ กรุงเทพฯ คือ ทริกเกอร์ของสงครามนิวเคลียร์เอเชีย หากฐานยิงขีปนาวุธของสหรัฐเกิดขึ้นจริงที่จังหวัดพังงา
แล้วใครคือคนที่ RAND รอคอยจะเปิดดีล คำตอบคือรัฐบาลไทยภายใต้ผู้นำที่สหรัฐหนุนหลัง ในรายงานระบุชื่อชัด ทักษิณ และธนาธร นี่ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิด แต่คือ เอกสารจริงจาก RAND ที่ยังสามารถค้นอ่านได้จนถึงวันนี้

2. ยูเครนไม่ได้กลายเป็นสนามรบในชั่วข้ามคืน

ยูเครนในวันนี้ คือกระจกสะท้อนอนาคตของไทยที่กำลังเดินซ้ำรอยอย่างไร้สติ ยูเครนเคยเป็นประเทศที่สหรัฐบอกว่าจะช่วยสร้างประชาธิปไตย แต่ความจริงคือการ วางเครือข่าย จัดการรัฐบาล สร้างความแตกแยกภายใน ปลุกระดมเยาวชน และยัดอาวุธเข้าประเทศอย่างช้า ๆ สุดท้ายยูเครนกลายเป็นสนามรบที่ไม่มีวันชนะ และประชาชนต้องสูญเสียทุกสิ่ง

วันนี้ ไทยกำลังซ้ำรอยยูเครนทุกขั้นตอนนั้น รู้ตัวกันบ้างรึเปล่า หนึ่ง มีความแตกแยกทางการเมืองระหว่างสีแดง-ส้ม-น้ำเงิน สอง มีต่างชาติเข้ามาตั้งฐานพลเรือนในหัวเมืองสำคัญที่ ปาย, เชียงใหม่, ภูเก็ต, สมุย, เชียงราย สาม มีสงครามข้อมูลที่สับสน จนมิตรกลายเป็นศัตรู และศัตรูกลายเป็นไอดอล สี่ มีการชักนำให้ มองจีนเป็นภัย ทั้งที่จีนไม่เคยส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดไทยเลยสักครั้งในประวัติศาสตร์ ถามจริงเถิด เรายังไม่รู้ตัวกันอีกหรือ

3. การเมืองไทยไม่ใช่เรื่องภายในอีกต่อไป

พรรคการเมืองไทยวันนี้ไม่ได้ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาชนอีกต่อไป แต่กำลังเป็น ตัวแทนผลประโยชน์ระหว่างประเทศ ที่กำลังจะลากไทยเข้าสู่เวทีที่ใหญ่เกินตัว อย่าคิดว่าสหรัฐจะมาตั้งฐานทัพแล้วแค่ฝึกรบ อย่าคิดสั้นแค่ว่าเราจะมีเงินไหลเข้ามาจากการค้ากับโลกตะวันตก เพราะสิ่งที่ตามมา คือการเป็น จุดยิงแรก ในกรณีเกิดสงครามจีน-สหรัฐอย่างเป็นทางการ

ขีปนาวุธจีนรุ่น DF-17, DF-21, DF-ZF คืออาวุธเหนือเสียงที่สามารถถล่มเป้าได้แม่นยำภายในไม่กี่นาที ไทยไม่เคยมีระบบป้องกันตนเองในระดับนี้ เราจะปกป้องประชาชน 70 ล้านคนจากฝนเหล็กนรกนี้อย่างไร แค่ไทยยอมให้มีฐานยิงขีปนาวุธของสหรัฐ…คือเท่ากับลงชื่อยอมเป็นสนามรบแล้ว รู้ตัวกันบ้างรึเปล่า

4. ถ้าประชาชนทั้งประเทศยังไม่ลุกขึ้นคัดค้านการตั้งฐานขีปนาวุธของสหรัฐ เราจะถูกยึดทั้งประเทศแบบเบ็ดเสร็จ

สงครามโลกครั้งที่สามมาในรูปแบบใหม่ ไม่มีเสียงปืนก่อน ไม่มีรถถังเข้าเมืองก่อน แต่มีคนไทยกดไลก์ให้คนที่เปิดประตูให้ศัตรูเข้ามาโดยที่คนที่จะเปิดประตูให้ศัตรูเข้ามานั้น ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือ พรรคที่คนเกือบครึ่งประเทศหลงเลือกเข้ามาในสภายังไงเล่า
ยังไม่รู้ตัวกันอีกหรือ

วันนี้ต่างชาติไม่ได้มายึดไทยด้วยกองทัพ แต่ด้วยเงินทุนองค์กร NGO ทุนอุดหนุนเยาวชน ฐานที่อยู่อาศัยถาวร และ เครือข่ายดิจิทัล เขาไม่ได้มายิงเรา แต่จะให้เรายิงกันเอง ให้เราทะเลาะกันเอง ให้เรายกแผ่นดินให้เขาโดยสมัครใจ เมื่อใดที่เรามองไม่ออกว่าเรากำลังอยู่บนกระดานของใคร เมื่อนั้นเราคือตัวเบี้ยที่เขาจะสั่งให้เดินไปตายตรงไหนก็ได้ ยังไม่รู้ตัวกันอีกหรือ

5. ถึงเวลาตื่นขึ้นจากภาพลวงตาของการเป็น ประเทศที่ปลอดภัย

ไทยไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว หากประชาชนไม่ตื่นรู้ หากสื่อยังตกอยู่ในอำนาจการครอบงำ หากรัฐบาลยังฝันหวานว่าเศรษฐกิจจะฟื้นจากการเป็นฐานทัพให้สหรัฐ หากเยาวชนยังไม่รู้ว่าเขากำลังถูกใช้ให้สั่นคลอนอธิปไตยของตนเอง ความมั่นคงของชาติไม่ได้เริ่มจากกองทัพ แต่เริ่มจากจิตสำนึกของประชาชนว่าบ้านเมืองนี้ไม่ใช่ของใครอื่น

สรุป ถ้าไม่ลุกขึ้นเฝ้าประตูดุจ ยามเฝ้าแผ่นดิน อย่าหวังว่าบ้านเมืองเราจะรอดขีปนาวุธไม่รู้จักสีเสื้อ สงครามไม่เลือกว่าใครฝั่งไหน แต่เมื่อมันระเบิดกลางกรุงเทพ มันไม่ถามก่อนว่าเราเลือกพรรคอะไร เมืองไทยตกอยู่ในสถานะ ยูเครน 2 ไปแล้วครึ่งตัว รู้ตัวกันรึเปล่า

ถ้าเรายังไม่ลุกขึ้นตั้งสติ อีกครึ่งตัว เขาจะยกให้วอชิงตันแน่นอน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเลือกว่า เราจะยอมจนอยู่กับผืนดินไทย หรือรวยชั่วคราวแล้วตายอยู่ใต้เศษซากอาวุธนิวเคลียร์ ชาติไทยไม่ควรยอมเป็นฐานยิงขีปนาวุธของใคร เพราะลูกหลานเราจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะขอขมาแผ่นดินที่ไหม้เป็นเถ้าถ่าน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx