ข่าวต่างประเทศ

แพทย์ผงะ หนูน้อย 16 เดือนหวิดดับ เลือดเป็นพิษ เหตุน้ำในบ่อปนเปื้อน

โรงพยาบาลในเวียดนาม ช่วยชีวิตเด็กหญิง 16 เดือนหวุดหวิด หลังพบภาวะเลือดเป็นพิษ เลือดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตัวเขียวคล้ำ แพทย์เผยต้นตอจากน้ำบ่อปนเปื้อนสารพิษที่ใช้ปรุงอาหาร

สำนักข่าวของเวียดนาม รายงานว่า ในโรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ได้ช่วยชีวิตเด็กหญิงวัย 16 เดือนไว้ได้อย่างหวุดหวิด หลังจากหนูน้อยถูกส่งตัวมาโรงพยาบาลในสภาพตัวเขียวคล้ำ ปากม่วง และขาดออกซิเจนรุนแรง ซึ่งแพทย์ได้ค้นพบสาเหตุที่น่าตกใจว่าเกิดจาก ภาวะเลือดเป็นพิษ ที่ทำให้เลือดกลายเป็นสีน้ำตาล ซึ่งมีต้นตอมาจากมื้ออาหารธรรมดาที่ปรุงด้วยน้ำบ่อ

นายแพทย์ ของโรงพยาบาลในนครโฮจิมินห์ เปิดเผยถึงกรณีของ เด็กหญิงรายหนึ่ง วัย 16 เดือน ที่ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลในสภาพริมฝีปากม่วง ผิวหนังทั่วตัวเขียวคล้ำ และค่าออกซิเจนในเลือดเหลือเพียง 75%

เด็กหญิงวัย 16 เดือน มีภาวะเลือดเป็นพิษ เนื่องจาก ทานอาหารที่คุณแม่ปรุงให้ด้วย น้ำจากบ่อ
ภาพจาก: Báo Người Lao Động

ผู้ปกครองให้ข้อมูลว่า ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเกิดอาการผิดปกติ หนูน้อยได้กินปู และซุปผักปวยเล้งซึ่งปรุงด้วยน้ำบ่อที่บ้าน ในตอนแรก เด็กหญิงยังรู้สึกตัวดีแต่ร้องไห้งอแง ไม่มีไข้ ไม่อาเจียน และไม่มีสัญญาณของระบบทางเดินหายใจที่ผิดปกติ แต่ภาวะตัวเขียว และขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงทำให้ทีมแพทย์ต้องเร่งหาสาเหตุอย่างเร่งด่วน

ผลการตรวจเลือดพบว่า เด็กมีภาวะขาดออกซิเจนและเลือดเป็นกรดรุนแรง แต่ผลตรวจการทำงานของหัวใจ ปอด ตับ และไต กลับอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์จึงสงสัยในภาวะ เมทฮีโมโกลบินในเลือด (Methemoglobinemia) ซึ่งเป็นภาวะที่เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่สามารถจับและขนส่งออกซิเจนได้ตามปกติ

ทีมแพทย์จึงได้ทำการทดสอบด้วยการดูดเลือดของหนูน้อยใส่หลอดฉีดยาแล้วเขย่า หากเลือดไม่เปลี่ยนเป็นสีแดงสดแต่ยังคงเป็น สีน้ำตาลช็อกโกแลต ก็จะถือเป็นสัญญาณเฉพาะของภาวะนี้ ซึ่งผลก็ออกมายืนยันตามที่วินิจฉัยก่อนหน้านี้

หนูน้อยได้รับการรักษาทันทีด้วยการให้ออกซิเจน ฉีดยาแก้พิษ เมทิลีนบลู (Methylene Blue) เข้าทางหลอดเลือดดำ และให้ผงถ่านกัมมันต์ (Activated Charcoal) เพื่อดูดซับสารพิษที่เหลือในทางเดินอาหาร เพียง 5-10 นาทีหลังฉีดยา หนูน้อยก็เริ่มมีสีผิวอมชมพูขึ้น และค่าออกซิเจนกลับมาสู่ระดับ 95% ภายใน 30 นาที

นายแพทย์ ได้ออกมาเตือนว่า ภาวะเมทฮีโมโกลบินในเด็กเล็กมักเกี่ยวข้องกับการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มี สารไนเตรท (Nitrate) ปนเปื้อนในปริมาณสูง โดยเฉพาะเมื่อปรุงด้วยน้ำบ่อ สารไนเตรทเป็นสารออกซิไดซ์ที่สามารถเปลี่ยนฮีโมโกลบินปกติให้กลายเป็นเมทฮีโมโกลบินที่ไม่สามารถนำพาออกซิเจนได้ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงแม้จะยังหายใจได้ปกติ

ผักบางชนิด เช่น ผักโขม บีทรูท และปวยเล้ง มีสารไนเตรทสะสมอยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งจะยิ่งอันตรายหากผู้ปกครองนำน้ำต้มผักเหล่านี้ไปชงนมให้ทารกดื่ม เพราะเชื่อผิด ๆ ว่า สีแดงช่วยบำรุงเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นพิษรุนแรงได้ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx