แฉ โซเชียลจีน รับเปิดบัญชีไทยง่าย ๆ 30 นาที ไม่ต้องมีวีซ่า หวั่นมิจฉาชีพ ตบหน้ากฎหมายไทย

เพจดังแฉยับ โฆษณาสะพัดโซเชียลจีน อ้างรับจ้างเปิดบัญชีแบงก์ในไทยง่ายใน 30 นาที ไม่ต้องใช้วีซ่า-เอกสารราชการ ชาวเน็ตหวั่นเป็นช่องทางแก๊งมิจฉาชีพฟอกเงิน-บัญชีม้า
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ออกมาแชร์ข่าวน่าตกใจเกี่ยวกับโฆษณาชวนเชื่อที่กำลังแพร่หลายบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีน อวดอ้างว่าสามารถอำนวยความสะดวกการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทยได้ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที ที่น่าตกใจคือ ระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า หรือเอกสารยืนยันตัวตนใด ๆ จากทางราชการไทย
จากโพสต์ของเพจ Drama-addict พบว่าโฆษณาดังกล่าวกำลังเป็นที่สนใจและถูกส่งต่อในกลุ่มออนไลน์ต่าง ๆ ของชาวจีน โดยเน้นถึงความสะดวกและความรวดเร็วในการเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารในประเทศไทย แม้ว่าผู้ที่สนใจจะไม่มีเอกสารทางกฎหมายที่ครบถ้วนสำหรับการยืนยันตัวตนตามระเบียบปกติก็ตาม
“ในโซเชี่ยลมีเดียจีน มีการโฆษณาบริการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารในไทย โดยระบุว่า เปิดได้ใน 30 นาที และไม่ต้องใช้วีซ่า
จนท ตำรวจลองตรวจสอบขยายผลดูครับ”

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ประชาชนต่างเข้ามาให้ความเห็นเป็นจำนวนมาก บางส่วนเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ตนเคยเปิดบัญชีที่ธนาคารซึ่งมีขั้นตอนที่หลากหลายและต้องมีเอกสารยืนยันตัวตน “เคยไปขอเปิดเจ้าหน้าที่ไม่เปิดให้ บอกให้ไปเปิดที่จังหวัดบ้านเกิด วันต่อมาเลยต้องพกเอกสารไปยืนยันตัวชุดใหญ่ ทั้งสัญญาเช่าห้อง สัญญาเช่าร้าน หลักฐานต่าง ๆ แต่กับพวกคนจีนทำไมมันเปิดง่ายขนาดนี้”
ขณะเดียวกัน บางส่วนก็เข้ามาวิเคราะห์สถานการณ์ในไทย ณ ขณะนี้ที่อาจเกิดปัญหาจากการฟรีวีซ่า “ประเทศไทยอาการเข้าขั้นโคม่าแล้วนะเนี่ย เรื่องพื้นที่อุทยานโดนถางไปเป็นร้อย ๆ ไร่ ไหนจะเรื่องเหล็กก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ เรื่องแม่น้ำที่มีสารปนเปื้อน มีเรื่องให้ตามเป็นหางว่าวเลย ฟรีวีซ่าที่นำมาซึ่งหายนะ”
อย่างไรก็ตาม มีผู้เข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติมว่า หากเขอปัญหาบัญชีเช่นนี้สามารถแก้ไขได้ “ได้ชื่อแล้วทำเรื่องส่งสถานทูตจับกุมแล้วส่งไปรับโทษในคุกออกมาส่งให้ทางการจีนจัดการอีกรอบ”


ข้อมูลจาก Facebook : Drama-addict
เพราะในความจริงแล้ว ต่างชาติที่จะเปิดบัญชีธนาคารในไทยได้ต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือวีซ่าประเภท Non-Immigrant บางธนาคารอาจไม่อนุญาตให้ต่างชาติที่มีเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยวเปิดบัญชีด้วยซ้ำ หรือถ้าอนุญาต ต้อแสดงเอกสารเพิ่มเติม เช่น หนังสือรับรองจากสถานทูต หรือหลักฐานแสดงความจำเป็นในการมีบัญชีซึ่งมีหน่วยงานรับรอง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจก็เพิ่งจับ 3 พนักงานธนาคาร ฐานร่วมสนับสนุนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ อำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้กระทำความผิด
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า กลุ่มจีนเทาหันมาใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อเปิดบัญชีม้าด้วยตนเอง จากนั้นจะกดเงินสดผ่านตู้ ATM หรือถอนเงินจำนวนมากที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เพื่อนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงคนไทยกลับประเทศ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารบางกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดทำเอกสารเท็จให้คนร้ายเหล่านี้
เมื่อกลางเดือนมีนาคม พบชาวจีน 15 ราย เปิดบัญชีธนาคาร หลังจากนั้น 1-2 วัน ก็จะถอนเงินทั้งหมดแล้วเดินทางออกนอกประเทศทันที ตรวจสอบพบยอดเงินที่ถูกถอนรวม 91 ล้านบาท จากเงินที่โอนเข้ารวมประมาณ 118 ล้านบาท
จากการตรวจสอบบัญชีทั้ง 15 บัญชี ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ามีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 106 คดี และยังเชื่อมโยงไปถึงบัญชีที่ใช้หลอกลวงอีก 462 บัญชี รวมคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 2,084 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2,200 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 2568 ศปอส.บช.น. ได้จับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ที่ทำหน้าที่จัดการและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มคนร้ายชาวจีนในการเปิดบัญชีและถอนเงิน ประกอบด้วย นายหยาง และนายเซี่ย ทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้า, นายฮาง และนายหวู ทำหน้าที่ควบคุมการถอนเงิน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์, อั้งยี่ และร่วมกันฟอกเงิน
การสืบสวนขยายผลยังพบว่า การเปิดบัญชีของกลุ่มชาวจีนที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีกลุ่มเอเจนซี่และพนักงานธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้อง ศปอส.ภ.2 จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร 3 ราย คือ น.ส.สิริลักษณ์, น.ส.ชุติมา, นายทรงพล และล่ามอีก 2 ราย คือ น.ส.มนธิดา และนายณรงค์ฤทธิ์ ในข้อหาเกี่ยวกับธุระจัดหาบัญชีเพื่อใช้ในอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวเสริมว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับตัวใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเปิดบัญชีเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ธนาคารบางส่วนช่วยเหลือ ศปอส.ตร. จะขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยังมีบัญชีม้าอีกมากที่สร้างความเสียหายเป็นหลักพันล้านบาท คดีนี้ชี้ให้เห็นช่องว่างในการทำงานของธนาคาร ซึ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รวบ 3 จนท.แบงก์ดัง ช่วยคอลเซ็นเตอร์จีน เปิดบัญชีม้า ดูดเงินคนไทย 2.2 พันล้าน
- ตม.ชลบุรี เอาจริง หนุ่มเบลเยียมเมา พังร้านค้าเละ เพิกถอนวีซ่า-ขึ้นบัญชีดำ
- เตรียมเพิกถอนวีซ่า “ชายเยอรมันคลั่ง” ตระเวนกัดปาก-ทำร้ายหมอฟัน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: