Whoscall ประกาศตั้งสำนักงานแห่งที่ 2 ที่ไทย หวังลดความเสียหายจากมิจฉาชีพ
Gogolook ผู้พัฒนาแอป Whoscall ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 ในไทย หวังลดความเสียหายทางการเงินจากมิจฉาชีพ
Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอย่าง Whoscall ประกาศตั้งสำนังานใหญ่แห่งที่ 2 ในไทย เพื่อขยายธุรกิจทั่วภูมิภาค โดยสำนักงานใหญ่แห่งแรกตั้งอยู่ที่ไต้หวัน มุ่งเน้นไปที่การดูผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท ส่วนสำนักงานใหญ่ในไทยจะเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจและการทำการตลาดเป็นหลัก รวมไปถึงแผนขยายทีมและเทคโนโลยีในไทยด้วยในอนาคต
สำหรับแนวทางในการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Gogolook จะจับมือกับพันธมิตรในไทยและภูมิภาค พร้อมด้วยความร่วมมือกับ ScamAdviser เพื่อลดความเสียหายทางการเงินที่เกิดจากมิจฉาชีพ จากเดิมที่บริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาจากการหลอกลวงค่อนข้างสูง ทั้งการดำเนินคดี ความกับผู้กระทำความผิด และค่าชดเชย
โดยเฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวจะอยู่ที่ 100 บาท ต่อทุกๆ 25 บาท ขณะที่บริษัทค้าปลีกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 80 บาท ต่อทุกๆ 25 บาทในขณะที่สถาบันทางการเงินจะต้องจ่ายมากถึง 128 บาท ต่อทุกๆ 25 บาท
การร่วมมือกับ ScamAdviser จะทำให้ Gogolook มีข้อมูลคุณสูงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มากกว่า 2,600 ล้านเลขหมาย รวมถึงโดเมนที่เป็นอันตราย, รายชื่อลิงก์ที่มีความเสี่ยง, สกุลเงินดิจิทัล และดิจิทัลวอลเลต รวมกว่าอีก 60 ล้านรายการ
นอกจากนี้ ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อวิเคราะห์และจำลองรูปแบบการหลอกลวง เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่จะป้องกันการหลอกลวง และขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน โซลูชันสำหรับธุรกิจในประเทศไทยนั้นประกอบไปด้วย
- Whoscall Verified Business Number หรือ VBN ช่วยในการยืนยันเบอร์โทรศัพท์ของธุรกิจ
- Watchmen Flaud Early System เป็นบริการแจ้งเตือนธุรกิจและเจ้าของแบรนด์ เวลามีเบอร์โทรศัพท์, เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียถูกสร้างขึ้นมาแอบอ้าง
อ้างอิง : blognone
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘หมอปาย’ ยื่นอุทธรณ์ ‘เดวิด’; ฝรั่งเตะหมอ หลังศาลยกฟ้อง ยันสู้ต่อ
- ก่อนกลับฮาร์วาร์ด เปิดข้อความ “พิธา” ส่งหานายกฯ แพทองธาร หลังป่วยจนลางาน
- หนุ่มสาวโรงงาน เฮ บริษัทดังจ่ายโบนัสอื้อ มากสุด 7.25 เดือน