รัฐบาล ชี้แจง ร้านค้าในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการส่งยอดขายให้กับกรมสรรพากร ยันเป็นโอกาสดีในการเพิ่มยอดขาย พร้อมแนะการยื่นภาษีที่ถูกต้องให้ประชาชน
ล่าสุด วันที่ 5 สิงหาคม 2567 นายจุลพันธ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกโรงชี้แจงกรณีร้านค้ากังวลเรื่องภาษีหากเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังจะไม่ส่งข้อมูลยอดขายให้กรมสรรพากร แต่ร้านค้าต้องยื่นภาษีตามปกติหากมียอดขายถึงเกณฑ์ที่กำหนด
นายจุลพันธ์ ย้ำว่า โครงการนี้มีเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านล้านบาท นับเป็นเรื่องดีที่ร้านค้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น จึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการพลาดโอกาสเพิ่มยอดขายสินค้าและกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าจะให้ความรู้และเตรียมความพร้อมให้ร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง
แม้จะมีร้านค้าบางส่วนยังไม่พร้อมเข้าร่วมโครงการเนื่องจากกังวลว่าหากมียอดขายเพิ่มขึ้นจะต้องจ่ายภาษีมากขึ้นตามไปด้วย เช่น หากมียอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 100,000 – 200,000 บาท เป็น 1.8-1.9 ล้านบาท ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มให้ตรงกับยอดขายจริง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม โครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้รับการตอบรับอย่างดีจากร้านค้าและร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กประมาณ 100,000 ร้านค้า สำหรับร้านค้าที่ยังไม่พร้อมดำเนินการ ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องก่อนเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่าจะยังไม่มีการเสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเข้าที่ประชุม ครม. และยืนยันว่าการตั้งงบประมาณเหลื่อมปีสามารถทำได้ตามที่ข้าราชการได้ชี้แจงไว้แล้ว ส่วนการเลื่อนแถลงข่าวลงทะเบียนร้านค้านั้นเปลี่ยนเป็นช่วงเดือนกันยายนเพื่อไม่ให้สับสนกับการลงทะเบียนของประชาชนทั่วไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง