สาวเช่าตึก เปิดร้านสัก ช็อกบิลค่าไฟพุ่ง 6 พัน ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าอยู่
สาวเช่าตึก งงค่าไฟพุ่งสูง 6,000 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าอยู่ แต่ในเดือนถัดมาใช้ไฟเต็มที่ ค่าไฟลดเหลือ 5,000 บาท การไฟฟ้าเข้าตรวจสอบไม่พบความผิดปกติ แต่ผู้เช่ายังคงติดใจ
ผู้เช่ารายหนึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดงง ผ่านเพจเฟซบุ๊ก พวกเราคือผู้บริโภค เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 โดยระบุว่า เมื่อได้รับบิลค่าไฟเดือนเมษายนถึงกับช็อก เพราะค่าไฟพุ่งสูง 6,476.31 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยจริง และมีการใช้ไฟเพียงเล็กน้อยจากพัดลมของลูกน้องเท่านั้น
ผู้เช่ารายนี้ได้ทำสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อเปิดร้านสัก โดยได้รับกุญแจห้องเช่าตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 แต่ยังไม่ได้เข้าอยู่ทันที เนื่องจากต้องทำการรีโนเวทห้องให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ซึ่งเธอและลูกน้องลงมือปรับปรุงห้องกันเอง โดยทาสีผนัง เปลี่ยนพื้นห้อง และติดวอลเปเปอร์ โดยไม่ได้จ้างช่างเข้ามาทำอะไรเพิ่มเติม
ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอได้ชำระค่าไฟเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นของผู้เช่าเดิมไปในราคา 359.38 บาท แต่เมื่อบิลค่าไฟเดือนเมษายนมาถึง กลับพบว่ามียอดสูงถึง 6,476.31 บาท ทำให้เธอรู้สึกตกใจ และงุนงงกับบิลที่ได้รับมา จึงได้ติดต่อไปยังการไฟฟ้าเพื่อขอตรวจสอบความถูกต้อง
หลังการไฟฟ้าเข้าตรวจสอบ ไม่พบความผิดปกติใด ๆ เธอจึงขอปรับลดขนาดหม้อไฟจากเดิม 15 แอมป์ 3 เฟส เป็น 15 แอมป์ 1 เฟส โดยมีค่าบริการประมาณ 107 บาท แต่การไฟฟ้าไม่สามารถเปลี่ยนขนาดหม้อไฟให้ได้ เนื่องจากต้องวางระบบไฟใหม่ทั้งหมด ผู้เช่าจึงต้องชำระค่าไฟตามที่บิลแจ้งมา รวมถึงต้องชำระค่าบริการเปลี่ยนหม้อไฟด้วย
ต่อมา เดือนพฤษภาคม บิลค่าไฟมียอด 5,800 บาท ตัวเธอก็ไม่ได้แปลกใจนัก เพราะเดือนนี้เธอได้เข้ามาอยู่ในอาคารแล้ว และมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ 2 ตัว โทรทัศน์ ตู้เย็น ตู้แช่ของ ไฟวอร์มรอบร้าน และหลอดไฟไม่ต่ำกว่า 50 ดวง
อย่างไรก็ตาม เธอยังคงติดใจว่า เหตุใดค่าไฟเดือนเมษายนถึงสูงผิดปกติทั้งที่ยังไม่ได้เข้าอาศัยจริง และทำไมการไฟฟ้าจึงคิดค่าบริการเปลี่ยนหม้อไฟ ทั้งที่ไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนหม้อไฟให้ด้วยซ้ำ
เรื่องราวนี้ได้สร้างความสงสัยให้กับผู้คนในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจโดนพ่วงไฟขณะที่ไม่อยู่บ้าน ทำให้ค่าไฟพุ่งโดยไม่รู้ตัว หรืออาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในอาคาร ทั้งนี้ ยังเสนอแนะว่าควรจดมิเตอร์ ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง หากมีอะไรผิดปกติ สามารถนำหลักฐานไปแจ้งที่การไฟฟ้าได้เลย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง