ข่าว

‘บิ๊กเต่า’ เผย น้ำมันเถื่อนหายเกลี้ยง เหลือแค่พอขับเรือได้ สั่งสอบด่วน

บิ๊กเต่า เผย น้ำมันเถื่อนหายเกลี้ยง เหลือพอแค่ขับเรือได้ คาดน้ำมันของกลางที่อยู่บนเรือ ไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของกลุ่มผู้ต้องหา เร่งสอบด่วน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขึ้นไปตรวจสอบ เรือของกลางขนน้ำมันทั้ง 3 ลำ เข้าเทียบที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสงขลา เมื่อค่ำของวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยหลังขึ้นไปตรวจสอบว่า พบว่าบนเรือแต่ละลำ เหลือน้ำมันเล็กน้อย ซึ่งเพียงพอสำหรับแค่การขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถยืนยันเป็นจำนวนตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่

ขนาดความลึกของถังอยู่ที่ 3.8 เมตรแต่เหลือเพียง 1 เมตร ขอเวลาให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบให้ชัดเจน โดยเรือทั้ง 3 ลำ มีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ส่วนตัวเชื่อว่าน้ำมันของกลางที่อยู่บนเรือ ไม่ใช่เป้าหมายสำคัญของกลุ่มผู้ต้องหา เพราะสามารถขายได้เพียงลิตรละ 10 บาท มูลค่ารวม 4 -5 ล้านบาทเท่านั้น

ส่วนน้ำมันที่สูญหายไป ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์ และเรือทั้ง 3 ลำก็ยังต้องถูกอายัดเป็นของกลาง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหาย มาแสดงตัวยืนยันเป็นเจ้าของเรือ ศาลจึงออกหมายจับ ในเรื่องของการลักทรัพย์ซึ่งเป็นของกลางเท่านั้น ซึ่งก็แน่ชัดว่า เหตุการณ์นี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่บกพร่องต่อหน้าที่ ขณะนี้สั่งการว่าต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการสอบสวนภายใน 7 วัน ซึ่งต้องมาดูว่าการบกพร่องต่อหน้าที่นั้น ทำให้เกิดความเสียหายมากน้อยเพียงใด ก่อนเอาผิดตามมาตรา 157 ยืนยันว่าไม่มีละเว้น ดำเนินการขั้นเด็ดขาด

โดยผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ รวมถึงอีก 7 คนที่หลบหนี อยู่ระหว่างการติดตามตัว ซึ่งอยากฝากถึงผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีว่า อยากให้เข้ามอบตัว และให้การกับตำรวจ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำคดี ซึ่งเจ้าของเรือถือเป็นคนสำคัญ ส่วนผู้ต้องหา 28 คนในคดีที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ก็จะต้องส่งฟ้องไป ตามกระบวนการทางกับกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมเพิกถอนการประกันตัว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button