ข่าว

รปภ.ไปไหน โรคจิตยืนช่วยตัวเองริมบันได BTS ล่วงละเมิดสาว ห่างจุดตรวจไม่กี่เมตร

โรคจิตยืนช่วยตัวเองริมบันได BTS ล่วงละเมิดสาว โชคดีมีคนมาเห็น คนร้ายจึงหลบหนี ล่าสุดจับตัวได้แล้ว อ้างเมายา ทำไปโดยไม่รู้ตัว

กลายเป็นประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่เพจ ข่าวสารเมืองปราการ v2 ได้โพสต์คลิปบริเวณบันไดเลื่อนสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “ความปลอดภัยอยู่ไหน เหตุเกิดบีทีเอสเคหะสมุทรปราการ เมื่อช่วงสายของวันนี้ วันเดียวมันก่อเหตุกับผู้หญิงสองคนเลย” โดยจากคลิปเป็นภาพของชายคนหนึ่งก่อเหตุช่วยตัวเองต่อหน้าผู้หญิง ก่อนจะล้วงขโมยของ

ต่อมาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวน ร่วมกันเข้าจับกุม นายสุทัศน์ หรืออาร์ม ช่วยรอด อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 408/2567 กระทำผิดข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายกระทำต่อหน้าธารกำนัล, กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลโดยกระทำการลามกอย่างอื่น, ทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์”

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบของกลางหลายรายการ 1.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Redmi รุ่นโน้ต 13 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง 2.เงินสดประมาณ 1,050 บาท 3.กระเป๋าสะพายข้างสีเทา จำนวน 1 ใบ จับกุมได้ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ น.ส.รัตตินันท์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่า ขณะที่ผู้เสียหายเดินขึ้นบันไดเลื่อน สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสการเคหะ สมุทรปราการ ถ.สุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อเดินทางไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง ระหว่างนั้นพบเห็นชายวัยรุ่นซึ่งคือ นายสุทัศน์ (ผู้ต้องหา) กำลังยืนช่วยตัวเองอยู่บริเวณทางเดินสถานีรถไฟฟ้าฯ และเมื่อเห็นผู้เสียหายจึงมุ่งตรงเข้ามาหาแล้วล็อกคอกดลงกับพื้น ก่อนจะทำการลวนลามด้วยการหอมแก้ม และพยายามถอดเสื้อผ้าผู้เสียหายออก ระหว่างนั้นผู้เสียหายได้ร้องขอความช่วยเหลือ และขัดขืน นายสุทัศน์ จึงใช้มือชกที่หน้าผู้เสียหายหลายครั้ง จนมีคนเดินมาเห็น ก่อนที่ นายสุทัศน์ จะตกใจ จึงรีบวิ่งลงบันไดเลื่อน แล้วขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใต้สถานีหลบหนีไป พร้อมกับกระเป๋าสะพายและทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง

จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่า มีประวัติเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์มา 2 ครั้ง โดยเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าที่ทำลงไปเพราะเมาสารเสพติด (โรเช่) ซึ่งก่อนเกิดเหตุเสพมา 10 เม็ด

ระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหาซึ่งมีอาการคล้ายคนเมา ช่วงแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเกาขาเท่านั้น แต่หลังจากตำรวจเค้นสอบปากคำอยู่สักพัก จึงรับสารภาพว่าเป็นพนักงานอยู่ร้านยางรถยนต์ ก่อนเกิดเหตุกินยาโรเช่ไปหลายเม็ด รวมทั้งน้ำกระท่อม และเสพกัญชามาด้วย จึงทำให้เมา ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่สถานีรถไฟฟ้า และช่วยตัวเอง แต่ระหว่างนั้นเห็นผู้เสียหายเดินมาพอดี จึงเข้าไปกอด อ้างทำลงไปโดยไม่รู้ตัว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button