เตรียมรับมือฝนถล่ม! ปภ. เตือน 40 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร เตรียมเฝ้าระวังพายุฤดูร้อน 24-26 ก.พ. นี้ สภาพอากาศมีลมกระโชกแรง พร้อมแนะแนวทางป้องกัน มีรายละเอียดที่ควรทราบดัง ต่อไปนี้
รายงานสภาพอากาศจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 40 จังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 24 – 26 กุมภาพันธ์ 2567 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
รายงานสภาพอากาศ พายุฤดูร้อน 24-26 กุมภาพันธ์ 2567
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า
ทั้งนี้ ธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (37/2567) ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 05.00 น.
แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนหลายพื้นที่
ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง
วมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 24 – 26 กุมภาพันธ์ 2567 แยกเป็น 3 ภาค ได้แก่
- ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง 21 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เพชรบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และสมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 40 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด
พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที
แนวทางป้องกัน “พายุฤดูร้อน” ฝนฟ้าคะนอง
ติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด: ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพายุฤดูร้อนได้จากกรมอุตุนิยมวิทยา เว็บไซต์ ปภ. หรือแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด: เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือหรืออพยพ ประชาชนควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
ตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง: ตรวจสอบหลังคา ผนัง ฝ้าเพดาน ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่รั่วซึม ต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้านควรตัดแต่งกิ่งก้านให้สั้นลง เพื่อป้องกันล้มทับ
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง: หาที่พักพิงที่ปลอดภัย เช่น อาคาร บ้านเรือน ใต้สะพานลอย
ระวังอันตรายจากฟ้าผ่า: ไม่ควรอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า สิ่งปลูกสร้างที่สูง เกษตรกรควรจัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย: เกษตรกรควรเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนโดยการจัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประเทศไทยเข้า “ฤดูร้อน” อย่างเป็นทางการ เริ่ม 22 ก.พ. 2567 รังสีดวงอาทิตย์พุ่ง
- กรมอุตุฯ เผย ไทยเข้าฤดูร้อน 5 มี.ค. ร้อนสุด 40-43 องศาเซลเซียส
อ้างอิง : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
