ข่าว

เปิดพิรุธ ‘ทอย’ วางแผนฆ่าหรือไม่ หลังซื้อกระเป๋าใส่ศพนุ่น ก่อนเกิดเหตุ 2 วัน

หรือจะเป็นวางแผนฆ่า โหนกระแส จับพิรุธ ทอย ซื้อกระเป๋าใส่ศพน้องนุ่น ก่อนเกิดเหตุทำร้ายเมียแค่ 2 วัน กรรชัย สันนิษฐานเป็นการะเตรียมการไว้ก่อนหรือไม่

โหนกระแสวันนี้ (22 ก.พ.67) เปิดพิรุธใหม่ “กระเป๋าใส่ศพน้องนุ่น” น.ส. ชลลดา ภรราสาววัย 27 ปี ที่ถูกนายศิริชัย รักทอง หรือ “ทอย” ทำร้ายจนเสียชีวิต หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ตั้งข้อสังเกตหลังทราบกระเป๋าสีแดงที่ใช้ใส่ศพก่อนนำร่างคนตายไปเผาอำพราง ถูกสั่งซื้อมาเพียงแค่ 2 วัน ก่อนที่จะเกิดเหตุลงมือฆาตกรรม

กรรชัย ตั้งปมสงสัยดังกล่าว โดยสืบเนื่องมาจาก พุทธ พุทธอภิวรรณ ผู้ประกาศข่าว ลุยชนข่าว ช่อง 8 ได้ตั้งสันนิษฐานหลังจากพบข้อมูลการซื้อกระเป๋าล่วงหน้า คือ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2567 ก่อนที่รอยต่อระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ. จะเป็นช่วงเกิดเหตุทุบฆ่าเมีย ซึ่งผู้ดำเนินรายการก็ตั้งคำถามต่อว่า หรือคดีนี้ ทอย จะวางแผนหรือมีการเตรียมการหรือไม่ ?

กระเป๋าสีแดง ทอย
แฟ้มภาพ

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ข้อสงสัยดังกล่าวก็อาจเป็นไปได้ แต่ประเด็นสำคัญอัยการอาวุโสมองว่าอยู่ตรงที่ เหตุการณืบนรถระหว่างคู่สามีภรรยามากกว่าว่า เกิดเรื่องทะเลาะอะไรกัน จนถึงตอนนี้หลายคนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

ส่วนกระเป๋าเห็นแล้วก็ใบใหญ่พอสมควรแต่ถึงขั้นจะตระเตรียมวไก่อน ทนายปรเมศวร์ ระบุสั้น ๆ ตนไม่กล้าฟันธง

ขณะที่ รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท กฤษณพงค์ พูตระกูล นักอาชญาวิทยา ก็มองว่าเป็นไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะซื้อมาทำไม ประกอบกับคลิปหลักฐานที่ร้านอาหาร ตอนน้องนุ่นกำลังอุ้มลูกอยู่ ผู้ชายเดินกลับมาที่รถอย่างรวดเร็ว อย่างแรกปกติเป็นนิสัย หรืออีกข้อสงสัย คือ มีการกระทบกระทั่ง หรือมีจุดที่อยู่ในใจ ไปสะกิดปมแล้วไม่พอใจให้กลับมาที่รถ

การมีกระเป๋า คือความเป็นไปได้ในแง่ที่ว่า ผู้ต้องหาคิดว่า เพราะมีความรุนแรงเกิดขึ้นมาตลอดก่อนหน้านี้ ถ้าวันหนึ่งตัดสินใจทำอะไรรุนแรงไปแล้ว กระเป๋าใบนี้ก็อาจจะเตรียมไว้สำหรับเก็บ.

ทนายปรเมศวร์
ภาพ @HoneKrasaeofficial

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button