อ่วม 3 จังหวัด PM 2.5 พุ่งถึงขั้นวิกฤติ อีก 60 จังหวัดค่าฝุ่นพุ่ง เกือบทั้งประเทศ
กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสต์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 รายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น”
เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 พบ 3 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ดังนี้
- สมุทรสงคราม 85.1 ไมโครกรัม
- สมุทรสาคร 81 ไมโครกรัม
- สุโขทัย 78 ไมโครกรัม
ที่น่ากังวลคือ พบอีก 57 จังหวัดที่ยังคงมีคุณภาพที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครวันนี้ พบค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจำนวน 8 เขต สูงสุดอยู่ที่หลักสี่ 81.1 ไมโครกรัม ตามด้วย หนองแขม 79.6 ไมโครกรัม, ดอนเมือง 79.1 ไมโครกรัม, บางรัก 75.8 ไมโครกรัม, บางกอกใหญ่ 75.4 ไมโครกรัม, ลาดพร้าว 75.3 ไมโครกรัม, พระโขนง 75.2 ไมโครกรัม และบางคอแหลม 75.2 ไมโครกรัม ส่วนในเขตพื้นที่อื่นๆ พบค่าฝุ่นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”
ที่มา : GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)