ผกก. – นักธุรกิจดัง ยันป่าตองไม่มีมาเฟียอิทธิพล
ผกก. – นักธุรกิจดัง ยันป่าตองไม่มีมาเฟียอิทธิพล เผย เสี่ยอ้วน ถูกดำเนินคดีมาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งทำร้ายร่างกาย จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เปิดสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนคดีฆ่าคนขายไอศกรีมต้องดูสำนวนใหม่
จากการกรณี เกิดเหตุ 2 หนุ่มสาว ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมที่ จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มีหลายคน หนึ่งในนั้นคือนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่ในพื้นที่ ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
ล่าสุด มีข่าวลือว่า นายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ติดต่อจะขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของตนเองยังไม่ได้เคยได้รับการติดต่อว่าจะมามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของพื้นที่ก็ไม่มีการตรวจสอบทั้งบ้านพัก สถานประกอบการของนายปัญญามาโดยตลอด
ส่วนเรื่องคดีค้างเก่าขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติในทุกระดับ ได้กำชับมายัง สภ.ป่าตอง ให้ดูสำนวนคดี ยิงนายอำพัน สุขสวัสดิ์ อายุ 47 ปี คนขายไอศกรีม เสียชีวิตคาหอพักพนักงานปุ้มปุ้ย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2560 ซึ่งปัจจุบันอัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยให้ดูในเรื่องของการทำสำนวน ว่าพนักงานสอบสวนทำคดีรอบคอบหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจอย่างมาก
พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวต่อไปว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งเป็นผู้กำกับ สภ.ป่าตอง โดยตนได้เรียกพนักงานสอบสวนมาดูสำนวนแล้ว พบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 18 พ.ย. 2560 ความเห็นจากชั้นพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้อง ไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2561 ต่อมาทางอัยการจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นต่างจากความเห็นของพนักงานสอบสวน อัยการจึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยคำสั่งดังกล่าวมาถึงโรงพัก เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2561 หากถามว่าทำไมอัยการจึงมีความเห็นสั่งฟ้องในส่วนนี้ตนตอบไม่ได้ ต้องไปถามเจ้าน้าที่อัยการเอง
ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของนายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน ยิ่งดัง พบเคยถูกดำเนินคดี รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง โดยเมื่อปี พ.ศ. 2556 เคยถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย /จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ปี พ.ศ. 2558 เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ปี พ.ศ. 2560 เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ คดีก่อเหตุยิงนายอำพัน สุขสวัสดิ์ คนขายไอศกรีม เสียชีวิต แต่ทางอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี
ด้านนายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ผู้ประกอบการสถานบริการหาดป่าตอง และ ประธาน กก.ตร.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า การที่หลายฝ่ายพูด ว่า เสียอ้วนเป็นมาเฟีย เป็นผู้มีอิทธิพล มีความยิ่งใหญ่ จะทำร้ายใครก็ได้ ตรงนี้พูดได้เลยเสี่ยอ้วน ไม่ใช่มาเฟีย หรือ เป็นผู้มีอิทธิพล เมืองป่าตองเป็นเมืองเศรษฐกิจ มีความปลอดภัย เป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศในระดับต้นๆ เป็นเมืองที่สร้างรายได้ สร้างงาน เป็นเมืองที่สร้างภาพลักษณ์ของประเทศได้ดี
ป่าตองมาเฟีย ไม่มีผู้มีอิทธิพล ในยุคนี้แม้แต่นักเลงหัวไม้ยังแทบจะไม่มีให้เห็น รัฐบาลนี้ปราบเด็ดขาด คดีเสี่ยอ้วน ไม่ใช่เรื่องของผู้มีอิทธิพล แต่เป็นเรื่องชู้สาวมากกว่า คนในป่าตอง รู้ดี โดยเฉพาะคนที่รู้จักเสี่ยอ้วน ก็จะรู้ว่าเขามีอุปนิสัยเป็นอย่างไร ตนยืนยันได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ประเด็นของผู้มีอิทธิพล เพราะหากใครเป็นผู้มีอิทธิพล ไม่สามารถทำงานที่ ป่าตองได้ ป่าตองเป็นเมืองเศรษฐกิจที่เดินมาไกล การทำงานในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจจุดนี้ ต้องใช้ทุนมากว่าใช้กำลัง เมืองนี้หากใครใช้กำลังก็จะถูกจับกุมแน่นอน เพราะทางทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เอาจริงในการปราบปรามเรื่องแบบนี้
นายปรีชาวุฒิ กล่าวอีกว่า เมืองป่าตองมีกล้องวงจรปิดมากที่สุด มีเครือข่ายภาคประชาชน มีตาสับปะรด มากที่สุด ทุกคนน่าจะมองใหม่ คนที่คิดว่าเมืองป่าตองมีมาเฟียน่าจะลืมไปได้เลย ลองคิดดูว่าทำไมนักท่องเที่ยวมาเที่ยวป่าตองมากที่สุด ถ้าเมืองไม่ปลอดภัยทำไมมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังมาเที่ยว
ถามว่าหากคนไทยไม่มั่นใจ แล้วทำไมนักท่องเที่ยวทั่วโลกมั่นใจ เขามั่นใจว่าเมืองป่าตองปลอดภัย ป่าตองไม่มีเหตุการณ์ยิงเพราะความปลอดภัยสูง เมืองป่าตองเป็นเมืองที่จับปืนได้น้อยที่สุด เพราะไม่มีใครกล้าพกอาวุธปืน ทำให้ไม่ใครกล้าก่อเหตุ และย้ำว่าป่าตองไม่มีมาเฟีย ไม่มีผู้มีอิทธิพลแน่นอน