มะม่วงดิบ ประโยชน์-โทษ ผลไม้เปรี้ยวจี๊ด คุณค่าโภชนาการสูง
มะม่วงดิบ ผลไม้ที่มีสรรพคุณทางยา และมีประโยชน์มากมาย แต่พร้อมให้โทษหากรับประทานมากเกิน เช็กคุณค่าโภชนาการ รับประทานพอดีมีคุณค่าต่อร่างกาย และวิธีเก็บรักษา
ผลไม้ยอดฮิตที่เหมาะแก่การจิ้มพริกเกลืออย่าง มะม่วงดิบ ไม่ว่าจะมะม่วงเขียวเสวย มะม่วงแรด หรือพันธุ์ไหน ๆ ด้วยเนื้อสัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวเพลิน และรสชาติเปรี้ยว มัน อร่อย ที่แตกต่างกันไปแต่ละสายพันธุ์ ทำให้มะม่วงดิบเป็นของทานเล่นยามบ่ายอันดับต้น ๆ ในใจของชมรมคนรักมะม่วงมาเสมอ
ทุกท่านทราบหรือไม่ว่า มะม่วงดิบไม่ได้มีดีแค่รับประทานแก้ง่วง แก้เบื่อ หรือในวันที่อยากหาอะไรรสชาติจี๊ดจ๊าดเติมร่างกายเท่านั้น แต่ยังมากไปด้วยสรรพคุณและประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
ประโยชน์ของมะม่วงดิบ แหล่งวิตามินซีชั้นดี
มะม่วงดิบ ผลไม้ยอดนิยมของคนไทย นอกจากรสชาติที่แสนอร่อยแล้ว บอกเลยว่ามีประโยชน์ด้านสุขภาพ และมีสรรพคุณทางยามากมาย ดังนี้
มีวิตามินซีสูงมาก เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ เพราะมะม่วงดิบ 100 กรัม มีวิตามินซี 50 มิลลิกรัม มากกว่ามะนาวถึงสองเท่า
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันหวัด
มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
ช่วยกระชับและบำรุงผิวพรรณ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
ช่วยในเรื่องลดความชรา ลดความเสี่ยงของอัลไซเมอร์
ป้องกันโรค เช่น ความเสี่ยงโรคหัวใจ ป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารได้ดีขึ้น
โทษของมะม่วงดิบ
แม้จะมีประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาที่เลื่องชื่อในเรื่องกากใยอาหารและวิตามินซีสูง แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดโทษต่อร่างกายได้ง่าย ๆ ดังนี้
- อาการแพ้
เนื่องจากบางท่านอาจแพ้ต่อสารที่อยู่ในมะม่วงดิบ เช่น สารเคมีหรือสารที่ใช้ในการกำจัดแมลงหรือโรคต่าง ๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้เฉียบพลัน หรือเกิดการแพ้ทางเดินอาหารได้ โดยอาการแพ้อาจแสดงออกได้หลายวิธี เช่น ผื่นแดง คัน บวม หายใจลำบาก หรือถึงขั้นเกิดอาการช็อก
- เกิดอาการท้องเสียได้
พราะมะม่วงดิบมีกรดอินทรีย์สูง รวมถึงรับประทานมะม่วงดิบที่ไม่สด ไม่สะอาด มีเชื้อโรคหรือสารพิษปนเปื้อนอยู่ในผล อาจทำให้ท้องเสียได้
- อาการท้องอืดเกิดขึ้นได้
หากรับประทานมะม่วงดิบในปริมาณมาก ดังนั้นจึงควรรับประทาน 1 ลูกเล็ก หรือครึ่งลูกใหญ่จะดีกว่า
- น้ำตาลในเลือดพุ่ง
มะม่วงดิบมีน้ำตาลธรรมชาติและแป้งน้อย แต่หากบริโภคมะม่วงดิบในปริมาณมาก อาจทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย ๆ ไม่ต่างจากมะม่วงสุก
คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงดิบ
มะม่วงดิบมีทั้งสรรพคุณและโทษต่อร่างกาย เราจึงควรรับประทานอย่างพอเหมาะในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาล หรือสารอาหารบางอย่างมากเกินความจำเป็น โดย Medthai ได้ให้ข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการ มะม่วงดิบ 1 ลูก ปริมาณ 100 กรัม มีสารอาหารต่าง ๆ ดังนี้
-
- พลังงาน 60 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม
- น้ำตาล 13.7 กรัม
- เส้นใย 1.6 กรัม
- ไขมัน 0.38 กรัม
- โปรตีน 0.82 กรัม
- วิตามินเอ 54 ไมโครกรัม
- เบตาแคโรทีน 640 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 0.67 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.12 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 9 43 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 36 มิลลิกรัม
- ธาตุแคลเซียม 11 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.16 มิลลิกรัม
- ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม
- ธาตุโพแทสเซียม 168 มิลลิกรัม
- ธาตุสังกะสี 0.09 มิลลิกรัม
วิธีเก็บรักษามะม่วงดิบ รับประทานน้อย ๆ แต่เก็บได้นาน
เริ่มจากนำมะม่วงดิบห่อด้วยพลาสติกแรปอาหาร ประมาณ 2 รอบ จากนั้นนำมะม่วงดิบที่ห่อแล้ว ใส่ในกล่อง Lock (กล่องถนอมอาการ) หรือถุงซิปล็อก แล้วปิดซิปให้แน่น เก็บใส่ตู้เย็นในช่องธรรมดา วิธีนี้ทำให้สามารถเก็บมะม่วงดิบได้นาน สดใหม่เหมือนเพิ่งเด็ดมาจากต้น
มะม่วงดิบ ผลไม้หน้าร้อนที่รับประทานได้ทุกช่วงเวลา รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย พร้อมกับประโยชน์แน่น ๆ นอกจากรับประทานแบบจิ้มพริกเกลือแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูป หรือประกอบอาหารต่าง ๆ ได้ เช่น มะม่วงดองเค็ม ข้าวเกรียบมะม่วง ยำมะม่วง ตำมะม่วง เป็นต้น แต่ขอเตือนไว้ว่า ควรรับประทานอย่างพอเหมาะพอดี บริโภคน้อยเป็นยา บริโภคมากเป็นผลเสียนะคะ