ข่าว

ช็อก! กัน จอมพลัง เข้าช่วยเคส ปู่ข่มขืนหลาน ต้องจ้าง 10,000 บาทขอให้ตำรวจจับ

ครอบครัวร้องขอความช่วยเหลือ กัน จอมพลัง ให้เข้าช่วยเหลือเคส ปู่ข่มขืนหลาน 14 ปี ต้องจ้าง 10,000 บาทขอให้ตำรวจจับ

กัน จอมพลัง พร้อมด้วย น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี อาของหลานสาว อายุ 14 ปี เด็กพิเศษ ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุม นายสมจิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ปู่เลี้ยง หลังก่อเหตุข่มขืนหลานสาวหลายครั้ง จนหลานสาวต้องถ่ายคลิปตัวเองไว้เป็นหลักฐาน เพราะกลัวไม่มีใครเชื่อ

Advertisements

ล่าสุดมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม กลับแจ้งญาติผู้เสียหายว่าไม่รู้จุดการเข้าจับกุม อีกทั้งในการจับกุมมีค่าใช้จ่ายสูง ต้องจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกพื้นที่เข้าไปจับกุมผู้ก่อเหตุนั้น

นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้อาของผู้เสียหาย ได้เดินทางมาจาก จ.นครปฐม ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์นานเกือบ 1 ปี แม้มีการแจ้งความ มีการออกหมายจับแล้ว แต่สิ่งสะเทือนใจสำหรับครอบครัวผู้เสียหาย คือ เจ้าหน้าที่ยังจับคนก่อเหตุไม่ได้ อีกทั้งยังมีแชทในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ ได้ส่งแจ้งญาติว่าจะต้องทำการจ้างตำรวจอีกจังหวัดไปจับกุมผู้ก่อเหตุ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้จุด รวมถึงค่าใช้จ่ายสูง

ตนจึงไม่เข้าใจว่าการช่วยเหลือประชาชนเพื่อจับคนกระทำความผิด จะต้องใช้เงินหรือ เด็กที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมในประเทศนี้ จะต้องใช้เงินจ้างตำรวจในการจับผู้ต้องหาจริง ๆ หรือ และถ้าไม่จ้างจับ ความเป็นธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่

ภายหลังหลังแจ้งความ ปู่เลี้ยงรายนี้ได้หนีไป ขณะนี้เด็กยังต้องเยียวยาตัวเอง ดังนั้น ถ้าตำรวจอยากได้เงินมากเดี๋ยวตนยอมจ่ายให้ จะได้เอาความเป็นธรรมมาให้ผู้เสียหาย ขอให้บอกจำนวนด้วย เพราะมันไม่สมควร ตนทำเคสช่วยเด็กมาเยอะ ไม่มีที่จะต้องเสียเงินเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเช่นนี้

Advertisements

ส่วนเรื่องเหตุการณ์การเกิดเหตุนั้น ปู่รายนี้ได้ข่มขืนน้องเดือนหนึ่งหลายครั้ง อาทิตย์หนึ่งมากกว่า 2 ครั้ง เกือบถึงปี โดยช่วงต้นปี 65 ปู่มักทำกับข้าวให้หลานกิน และชวนหลานเข้าไปกินด้วย โดยปู่รายนี้ได้มาพักอาศัยอยู่กับย่าของน้องได้ 5 ปี ภายนอกปู่ดูนิ่ง ๆ ดูไม่ดุ ตนจึงมองว่าครอบครัวควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การรู้ข้อเท็จจริง เกิดมาจากอาของผู้เสียหาย ได้ยืมโทรศัพท์ของน้อง จากนั้นไปเห็นว่าน้องมีการกดถ่ายคลิปตอนตัวเองถูกกระทำไว้ เนื่องด้วยน้องกลัวที่บ้านจะไม่เชื่อ เพราะปู่ดูเป็นคนดี และพอหลังเกิดเรื่องขึ้น ปู่รายนี้ก็ทิ้งคนในครอบครัวหมด ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ แม้ช่วงแรก ๆ มีการอัปเดตเคสจากตำรวจ แต่ช่วงหลัง ๆ ตำรวจกลับเงียบ

เหตุการณ์ที่คนในครอบครัวข่มขืนคนในครอบครัว ตนไม่อยากให้มีการเอาเยี่ยงอย่าง วันนี้มาพาผู้เสียหายร้องทุกข์ เพื่อให้เห็นว่าคนเหล่านี้ต้องถูกดำเนินคดีเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนเรื่องเงิน 10,000 บาทนั้น ตนเคยประสานไปยัง ผกก.สภ.เมืองนครปฐม แต่ไม่รับสาย และไม่มีการชี้แจง แต่วันนี้เชื่อว่าถ้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โทรศัพท์ไป น่าจะมีการแจ้งข้อมูลกลับมา

ขณะที่ น.ส.เอ กล่าวว่า สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุ มีคนพักอาศัย คือ ตน แฟนหนุ่มของตน ปู่ผู้ก่อเหตุ ย่า และน้องผู้เสียหาย ซึ่งพฤติการณ์ที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นว่าปู่มักชวนน้องกินข้าวตลอด ชวนไปกินสองคน พักหลังสงสัยเพราะเห็นว่ามีการชวนน้องไปกินข้าวในห้อง อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยเห็นปู่ก่อเหตุกระทำอนาจารหลานต่อธารกำนัล และหลานไม่เคยเล่าให้ฟัง รวมถึงไม่มีอาการเศร้าที่ผิดปกติ

ตนจึงเสียใจที่เห็นภาพเหตุการณ์เหล่านั้นในเครื่องโทรศัพท์ของหลาน และพอทราบเรื่อง ก็ได้สอบถามปู่ และได้ไปบอกญาติ ๆ ใกล้บ้าน อีกทั้งที่ผ่านมา ตนทราบว่าหลานเคยไปเล่าให้เพื่อนในห้องเรียนฟังว่าเขามีอะไรกับปู่ แต่เพื่อนไม่เชื่อ เพื่อนเลยแนะนำให้อัดคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ จากที่ตนเคยได้พูดคุยกับปู่เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เขาปฏิเสธทุกการกระทำ จากนั้นในเช้าวันถัดมาก็ไม่เห็นปู่ในพื้นที่แล้ว เพราะเจ้าตัวได้หนีไป

ส่วนประเด็นที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ไลน์แจ้งย่าว่าจะต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกพื้นที่ไปจับกุม โดยอ้างว่ามีค่าใช้จ่าย 10,000 บาท โดยถือเป็นรางวัลนำจับนั้น ทางครอบครัวยังคงไม่มีการจ่ายแต่อย่างใด เพราะมองว่าการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยหรือ

ทั้งนี้ น.ส.เอ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า เป็นผู้เสียหายแล้วยังเป็นผู้เสียตังค์ด้วย ถ้าไม่มีเงิน จะจับคนร้ายไม่ได้หรือ และตนอยากให้ รอง ผบ.ตร. สามารถจับผู้ก่อเหตุให้ได้ เพราะขณะนี้จะครบ 1 ปี แล้ว และล่าสุดก็พบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดการทางพิเศษ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2566 โดยเจอผู้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ยโสธร อีกทั้ง เจ้าตัวยังมีแฟนใหม่อีกด้วย ตนจึงอยากให้มีการเร่งรัดจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button