ข่าวข่าวต่างประเทศ

หนุ่มคลั่งพยายามเปิดประตูฉุกเฉิน ก่อนลงจอด ใช้ช้อนหักแทงแอร์ 3 ครั้ง

วุ่นหลัง หนุ่มคลั่งพยายามเปิดประตูฉุกเฉิน ก่อนเครื่องบินลงจอด พนักงานเข้าเตือนก่อนถูกหนุ่มคลั่งทำร้ายร่างกาย ใช้ช้อนหักแทงแอร์ 3 ครั้ง

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เว็บไซต์ NYPost รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนาย ฟรานซิสโก เซเวอร์โร ตอร์เรส วัย 33 ปี หลังก่อเหตุความวุ่นวายในสายการบินยูไนเต็ด หลังพยายามเปิดประตูฉุกเฉินก่อนใช้ช้อนเหล็กที่หักแทงคอพนักงานจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

สำนักงานอัยการสหรัฐฯประจำรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเผยว่านาย ตอร์เรส สร้างความแตกตื่นภายในเที่ยวบินจากลอส แองเจลิสไปยังบอสตัน ก่อนที่เขาจะกระโจนใส่พนักงานบนเครื่องบินและใช้ช้อนที่หักแทงลูกเรือถึง 3 ครั้ง ก่อนที่ผู้โดยสารจะช่วยควบคุมตัวชายคนดังกล่าว

อัยการเผยอีกด้วยว่าขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอดได้ราวๆหนึ่งชั่วโมง พนักงานต้อนรับสังเกตเห็นว่าด้ามจับประตูถูกเลื่อนออกจากตำแหน่งของมัน แอร์รีบล็อคประตูดั่งเดิม และแจ้งเตือนลูกเรือคนอื่นๆและนักบิน โดยพนักงานต้อนรับเห็นนาย คอร์เรส นั่งอยู่ใกล้ประตูดังกล่าวและคิดว่าเขาอาจจะเป็นผู้ที่พยายามเปิดประตูฉุกเฉินนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่สายการบินเข้าพูดคุยกับชายคนดังกล่าว เขาก็โต้แย้งว่ามีหลักฐานอะไรที่บอกว่าเขาเป็นคนพยายามเปิดประตูหรือไม่

พนักงานคนดังกล่าวจึงแจ้งกับนักบินว่านาย ตอร์เรส เป็นอันตรายและควรจะนำเครื่องลงจอดให้เร็วที่สุด และในจังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ยืนขึ้นและทำร้ายร่างกายลูกเรือคนดังกล่าว ก่อนถูกควบคุมตัวในที่สุด

นายตอร์เรส ให้การกับตำรวจ ยอมรับว่าเขาพยายามเปิดประตูฉุกเฉินจริง เพื่อที่เขาอยากโดดออกจากเครื่องบิน และเขาทราบดีว่าจะมีผู้เสียชีวิตโดยมากหาก เขาเปิดประตูสำเร็จ ส่วนสาเหตุที่เขาทำร้ายร่างกายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเนื่องจากเขากลัวว่าพนักงานคนดังกล่าวจะทำร้ายร่างกายเขา

เบื้องต้นนาย ตอร์เรส ถูกตั้งข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธอันตราย และจะขึ้นศาลในวันที่ 9 มีนาคมนี้

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button