พาไปเปิด ประวัติ ลูกหนัง ศีตลา วง H1-KEY ที่เชื่อว่าจะต้องมีใครหลายคนที่อยากรู้จักแน่นอน โดยปัจจุบันเธอเป็นนักร้อง สังกัดค่ายเกาหลี และเพิ่งปล่อยผลงานเพลงให้เราได้ชมกันไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง งานนี้จะเป็นยังไง ไปติดตามด้วยกันได้เลย ?
เปิด ประวัติ ลูกหนัง ศีตลา วง H1-KEY หนึ่งในลูกสาวฝาแฝดคนสวยของ ตั้ว ศรัณยู
ส่องประวัติ ลูกหนัง ศีตลา คือ ใคร
ลูกหนัง ศีตลา หรือ SITALA จากวง H1-KEY เด็กไทยในประเทศเกาหลี โดยเธอมีชื่อจริงว่า ‘ศีตลา วงษ์กระจ่าง’ ชื่อเล่นว่า ‘ลูกหนัง’ มีฝาแฝดชื่อ ‘ศุภรา วงษ์กระจ่าง‘ หรือรู้จักกันในชื่อ ‘ลูกหนุน‘ โดยทั้งคู่ เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ตั้ว ศรัณยู หนึ่งในบุคคลมากความสามารถของวงการบันเทิงไทย
ลูกหนัง ได้จบการศึกษาจาก Ewha Womans University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เธอยังเคยมีประสบการณ์ในการเป็นนางแบบ ภายใต้ต้นสังกัดเก่าอย่าง YGKPlus อีกด้วย แต่ต่อมา เธอได้เลือกเข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัด เพื่อฟอร์มวงเป็นหนึ่งในสมาชิกวง H1-KEY ภายใต้ต้นสังกัดใหม่ที่มีชื่อว่า LIONHEART ก่อนจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมานี่เอง
ผลงาน ลูกหนัง ศีตลา สมาชิกวง H1-KEY
ก่อนจะไปรู้จักกับผลงานของวง H1-KEY เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับอีก 3 สมาชิก เพื่อนร่วมวงของลูกหนังกันซะก่อน โดยภายในวงนั้น ได้ประกอบไปด้วยเพื่อนศิลปินที่เป็นชาวเกาหลีแท้ ได้แก่ เยล ซอย และริน่า โดยมีลูกหนัง ศีตลา มีอายุเป็นพี่ใหญ่สุดของวง
ซึ่งพวกเธอในฐานะวง H1-KEY ได้ทำการปล่อยเพลงเดบิวต์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อเพลงว่า ‘ATHLETIC GIRL’ มาในคอนเซ็ปต์ของสาวนักกีฬา อวดหุ่นสุขภาพดี ชวนให้น่าหลงใหล พร้อมเสียงร้องและท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ และในปัจจุบัน เพลงดังกล่าว ได้มียอดดู MV สูงถึง 11 ล้านครั้งเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงศิลปินหน้าใหม่ ที่ได้รับความสนใจไม่น้อยเลย
อัปเดต ศีตลา ล่าสุด
ล่าสุดในเดือนธันวาคม 2565 ครบรอบ 1 ปีกับการออกจากวง สาวศีตลาได้ไปออกรายการ ON THAT DAY ช่อง THE STANDARD POP เปิดใจเป็นครั้งแรกกับเหตุการณ์ #แบนศีตลา #แบนศีตลา โดยได้บอกว่า
“จริงๆ เริ่มจากค่ายวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า เขาอยากเปิดตัวศิลปินคนนึง ให้เป็นรูปแบบที่แตกต่าง ก็มีกระดาษแผ่นนึงให้เขียนข้อมูลตัวเอง ว่าเราชื่ออะไร ส่วนสูงเท่าไหร่ ใครคือแรงบันดาลใจของเรา เราก็บอกว่าคือคุณพ่อ ซึ่งก็หนีไม่ได้ที่เขาจะไปคุ้ยว่าน้องคนนี้คือใคร ไปเสิร์จว่าน้องคนนี้คือใคร และคงไปโฟกัสที่คำตอบของเรา เลยเกิดประเด็นดรามาขึ้นมา”
“ตอนนั้นเราไม่ทราบ เพราะมือถือไม่ได้อยู่กับตัวเรา วันที่ค่ายประกาศเราไป เราน่าจะซ้อมถึงตีสาม มือถือก็ฝากค่ายไปเลย เขาก็คิดว่าเราไม่ควรเล่นมือถือ ก็หลับไป จนตื่นขึ้นมา ค่ายเรียกเราคนเดียวในวงไป เขาบอกว่าแม่โทรมาร้อยมิสคอล ให้คุยกับคุณแม่ ครั้งแรกที่คุยคุณแม่ร้องไห้ แม่ก็อธิบายว่ามีเรื่องแบบนี้นะ”
“เราเข้าใจจริงๆ ว่าแอ็กชั่นที่เราทำในอดีต ทำให้คนกลุ่มไม่น้อยได้รับผลกระทบ เราไม่เคยอยากให้แอ็กชั่นของเราไปทำให้ใครต้องรู้สึกไม่ดี ต้องรู้สึกเสียใจ ต้องรู้สึกว่าเขาเจ็บปวด เราไม่เคยอยากให้เป็นแบบนั้น แต่เราก็ไปแก้อดีตไม่ได้ ณ ตอนนั้นเราทำไปด้วยความคิดว่าเราเข้าใจแบบนั้น แต่สิ่งที่เราเสียใจ เราเสียใจตรงที่ไม่คิดว่าสิ่งที่เราทำมา จะทำให้คนอื่นเสียใจ
“การไปร่วมชุมนุม ณ วันนั้น ความรู้ ความเข้าใจของเรา เราไปเพราะเราเชื่อแบบนั้น เราแค่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เราคิดแค่นั้นเลย เราไม่พูดว่าเราไปด้วยเด็ก เราไปด้วยความที่เราเชื่อแบบนั้น และคนที่ไปตรงนั้นก็มีจุดประสงค์เดียวกันคืออยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ไม่ได้คิดว่าในอนาคตจะเป็นแบบนี้ หรือผลที่ตามมา ที่เราไปทำตรงนั้นจะทำให้เราเสียใจ”
ความรู้สึกตอนตัดสินใจออกจากวง
“ปฏิเสธยากมากที่จะไม่เกิดเอฟเฟกต์กับคนในวง บางคนฝึกนานกว่าเรา ไม่อยากให้เขาต้องมาได้รับผลกระทบ จากเรื่องนึงที่เราทำ ทั้งที่เขาไม่ทราบอะไรเลย เขาแค่มีความฝันเดียวคือเดบิวต์ ก็เลยเกิดคำถามว่าเฮ้ย เรามาสร้างปัญหาให้น้องหรือเปล่า”
“เราคิดว่าเราเป็นปัญหาในวง ทำให้น้องที่เขาไม่รู้เรื่อง ต้องมารับแรงกดดันจากทางค่าย หรือคอมเมนต์ที่เขาเห็น เราก็คิดว่าเราอยากเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้น ตอนนั้นน้องบอกว่าพี่ไม่เป็นไร แต่ยูปฏิเสธไม่ได้ว่าเอฟเฟกต์ยู และห้ามเรารู้สึกแบบนี้ไม่ได้ เรารู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นแค่เราคนเดียวจริง ๆ”
- เปิดวาร์ป หล่งซื่อ ลี ประวัติ หนุ่มหล่อหน้าตี๋ ที่ใคร ๆ ก็อยากรู้จัก
- ส่อง ประวัติ แตงโม นิดา นางเอกชื่อดัง กับเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ