สาวเมียนมา ถูกรถชนขณะข้ามทางม้าลาย เจ็บหนัก
สาวเมียนมา ถูกรถชนขณะข้ามทางม้าลาย ร่างกระเด็น เจ็บหนัก ด้านคนขับอ้างมองไม่เห็นทางม้าลาย เนื่องจากเส้นทางม้าลายจางและไม่ได้รับการดูแล
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ลงพื้นที่ให้ความ หญิงชาวเมียนมาวัย 33 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์กระบะ ขณะเธอกำลังจะข้ามทางม้าลายบนถนนสายกิ่งแก้ว ช่วงปากซอยกิ่งแก้ว 52/1 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงเวลา 23.30 น. วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยหญิงคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส และส่งตัวไปให้แพทย์ยื้อชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอต เป็นการด่วน
หลังเกิดเหตุ ทางด้าน ร.ต.อ.สัณหวัช แก้วดวงศรี รองสารวัตร สอบสวน สภ.บางแก้วเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุบนทางม้าลาย พบข้าวของของผู้บาดเจ็บตกกระจายเกลื่อนพื้น โดยมีรถยนต์กระบะคู่กรณีซึ่งมีร่องรอยการชนที่หน้ารถด้านขวา และมีนายมนตรี พูลศิลป์ อายุ 33 ปี เป็นคนขับยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่อยู่
นายมนตรี เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากฝั่งลาดกระบัง กำลังมุ่งหน้าไปหาเพื่อนแถวหลังโรงพยาบาลจุฬารัตน 9 ยอมรับว่าตอนนั้นขับมาค่อนข้างเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งตนวิ่งมาในเลนขวาสุด จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคู่กรณีเดินลงมาจากเกาะกลางถนนเพื่อจะข้ามถนน
ตนไม่ทันระวังจึงพุ่งชนอย่างจังจนร่างกระเด็นหลายเมตร ก่อนจะรีบจอดรถลงไปช่วยเหลือและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วย ยืนยันว่ามองไม่เห็นว่ามีคนกำลังจะข้าม อีกทั้งบริเวณดังกล่าวแสงไฟไม่ค่อยสว่างเท่าที่ควร ประกอบกับทางม้าลายจุดนี้เส้นไม่ชัดเจน ทำให้มองไม่เห็นว่ามีทางม้าลายจึงไม่ได้ทันระวัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเห็นทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เชิญตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ. ส่วนประเด็นที่ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลายนั้น จะต้องไปสอบสวนพิจารณาเพิ่มเติมอีกครั้ง
ทั้งผู้สื่อข่าวในพื้นที่ระบุว่าทางม้าลายที่เกิดเหตุนั้น เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง เนื่องจากสภาพทางม้าลายที่ลบเลื่อน อีกทั้งถนนกิ่งแก้วนี้มีเกาะกลางที่สูงประมาณ 1 เมตร และทางม้าลายจะตัดกับเกาะกลาง ทำให้รถที่วิ่งมาทางตรงจะมองแทบไม่เห็นคนที่รอข้ามทางม้าลาย และส่วนใหญ่รถมักใช้ความเร็วบนถนนสายนี้