ศบค. ห่วง โควิดโอไมครอน ย้ำ ปชช. ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อกลายพันธุ์
ศบค. เผยเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิดโอไมครอน เน้นย้ำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเพื่อป้องกันเชื้อกลายพันธุ์
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับโควิดโอไมครอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการจับตาเป็นอย่างมาก และถือเป็นโควิดที่มีความน่ากังวลสูง
โดย พญ.อภิสมัย ระบุว่า การแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอน นอกจากทวีปแอฟริกาที่มีรายงานพบเชื้อยืนยัน หลายประเทศในยุโรปตอนนี้มีรายงานแล้วทั้ง อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เบลเยี่ยม สาธารณรัฐเช็ก ล่าสุดมีรายงานยืนยันคือเดนมาร์ก ซึ่งพบเชื้อจากประชาชนที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มแอฟริกา
ส่วนเอเชีย มีที่ฮ่องกง และอิสราเอล ซึ่งขณะนี้อิสราเอลประกาศปิดประเทศเรียบร้อยแล้ว และออสเตรเลียก็มีรายงานยืนยันพบโอไมครอนแล้วเช่นกัน
จากการที่องค์การอนามัยโลก เป็นห่วงสายพันธุ์กลายพันธุ์โอไมครอน ที่มีรายงานว่าแพร่กระจายได้เร็วยิ่งกว่าสายพันธุ์เดลต้า ถึงแม้จะยังไม่มีการรายงานความรุนแรง แต่องค์การอนามัยโลกย้ำว่าในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุและมีโรคประจำตัว ถือว่ามีความเสี่ยงน่าเป็นห่วง และเน้นย้ำว่าปัจจัยสำคัญในการเกิดเชื้อกลายพันธุ์ มักจะเป็นประเทศที่มีประชากที่ได้รับวัคซีนค่อนข้างต่ำ มีการกระจายวัคซีนไปยังประชาชนน้อยมาก ทำให้ภูมิคุ้มกันน้อย เป็นเหตุให้เกิดเชื้อกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงย้ำว่าหากใครไม่รีบรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด เราอาจเป็นที่หนึ่งที่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อได้
ในส่วนของเรื่องการปรับใช้วิธีการตรวจ ATK แบบ เทสแอนด์โกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. นั้น กระทรวงสาธารณสุข ประเมินสถานการณ์และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงต้องขอให้ทุกคนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่าจะคงตรวจ RT-PCR ไว้จนถึง 16 ธ.ค.64 แต่จะเปลี่ยนเป็น ATK ตามมติ ศบค.หรือไม่นั้น ยังต้องติดตาม เพราะอาจเปลี่ยนแปลงได้
- พญ. ผู้ค้นพบ โควิดโอไมครอน เผย อาการ ผู้ป่วยไม่รุนแรง
- ‘สาธิต’ ยืนยัน ‘โควิดโอไมครอน’ ยังไม่เข้าไทย เล็งทบทวนเลื่อนใช้ ATK กับนักท่องเที่ยว
- เอาจริง! ญี่ปุ่นปิดประเทศ ป้องกันโควิดโอไมครอน