ตุลาคม เที่ยวไทยที่ไหนดี สัมผัสลมหนาวแรกปี 2568 โอบกอดสายหมอกเย็น อาบแดดแรกของวัน
บอกลา สายฝนสุดท้ายโปรยปรายอำลา เสียงแห่งพงไพรก็เปลี่ยนทำนอง ลมเย็นระลอกแรกเริ่มพัดพา กลิ่นดิน ไอหมอกจางๆ มากับแสงแดดอ่อนๆ ของเดือนตุลาคม 2568 นี่คือสัญญาณจากธรรมชาติที่กระซิบว่า ฤดูกาลแห่งการเดินทางครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผืนป่าที่ชุ่มฉ่ำกลับมามีชีวิตชีวา ท้องฟ้าเปิดกว้างต้อนรับหมู่ดาว สายหมอกก็พร้อมใจกันลอยอ้อยอิ่งเหนือยอดดอย ราวกับภาพวาดของจิตรกรเอก เหมาะมากออกไปท่องเที่ยว สัมผัสลมหนาวแรกของปี 2568 ณ ดินแดนสุดขอบฟ้าของเมืองไทย
ช่วงเดือนตุลาคม 2568 จะมีวันหยุดยาว 3 วัน คือ วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม – วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2568 ทีมงานไทยเกอร์ทราเวลขอมาแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยว เหมาะกับท่องโลกกว้างในประเทศไทย เดือนตุลาคม
1. ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ สัมผัสไอหนาวบนหลังคาแห่งสยาม
ราวกับเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี เมื่อลมหนาวมาเยือน จุดหมายแรกที่หลายคนนึกถึงคือ ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่จุดวัดอุณหภูมิที่ต่ำที่สุด แต่ยังเป็นดินแดนแห่งป่าเมฆโบราณ มอสและเฟิร์นสีเขียวสดปกคลุมลำต้นไม้ใหญ่ราวกับพรมกำมะหยี่ ในยามเช้าตรู่ แสงแรกของวันจะอาบไล้พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริให้เปล่งประกายสีทองอร่าม ตัดกับทะเลหมอกสีขาวบริสุทธิ์ที่ทอดยาวสุดสายตา เป็นภาพความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน
- จุดเด่น: ยอดดอยที่สูงที่สุดในไทย, เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา, พระมหาธาตุคู่, ชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น, สัมผัสอากาศหนาวเย็นก่อนใคร
- การเดินทาง: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-จอมทอง) แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1009 ตรงไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ ระยะทางประมาณ 106 กิโลเมตร หรือสามารถเช่ารถสองแถวสีเหลือง (สายจอมทอง-ดอยอินทนนท์) จากอำเภอจอมทองได้
2. ภูชี้ฟ้า เชียงราย ชี้ขอบฟ้า ณ ปลายสุดแดนเหนือ
ผาหินที่ยื่นล้ำเข้าไปในแผ่นดินลาว คือเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ วนอุทยานภูชี้ฟ้า นักเดินทางจากทั่วทุกสารทิศต่างมุ่งหน้ามาเพื่อรอคอยวินาทีที่ดวงอาทิตย์จะค่อยๆ โผล่พ้นทิวเขา สาดแสงสีทองจับขอบฟ้าและทะเลหมอกเบื้องล่าง ในเดือนตุลาคม สายหมอกจะจับตัวกันเป็นปุยหนาแน่น เคลื่อนไหวไปตามแรงลมราวกับเกลียวคลื่นในมหาสมุทร การได้ยืนอยู่บนยอดภูชี้ฟ้าในยามเช้า คือการได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ รู้สึกถึงความสงบและอิสระอย่างแท้จริง
- จุดเด่น: จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย, ทิวทัศน์เทือกเขาสลับซับซ้อนของฝั่งลาว
- การเดินทาง: จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 ไปยังอำเภอเทิง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 1093 มุ่งหน้าสู่วนอุทยานภูชี้ฟ้า เส้นทางค่อนข้างสูงชัน ควรใช้รถที่มีกำลังสูงและขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
3. บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน จิบชาอุ่นในอ้อมกอดแห่งขุนเขา
หมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาและโอบล้อมด้วยทะเลสาบ บ้านรักไทย คือภาพฝันที่กลายเป็นจริงในยามเช้า สายหมอกจะลอยอ้อยอิ่งเหนือผืนน้ำ สะท้อนภาพบ้านดินและไร่ชาขั้นบันได เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามราวภาพวาดพู่กันจีน กิจกรรมยามเช้าคือการล่องเรือในทะเลสาบ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และกลับมาจิบชารสเลิศที่ปลูกและผลิตในหมู่บ้าน ที่นี่เวลาเหมือนจะเดินช้าลง ให้เราได้ซึมซับกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์
- จุดเด่น: บรรยากาศหมู่บ้านจีนยูนนาน, ไร่ชาขั้นบันได, ทะเลสาบกลางหมู่บ้านพร้อมสายหมอกยามเช้า, อาหารจีนยูนนานเลิศรส
- การเดินทาง: จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 (แม่ฮ่องสอน-ปาย) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 1254 ผ่านภูโคลน จนถึงบ้านรักไทย หรือสามารถนั่งรถสองแถวสีเหลืองจากตลาดสายหยุดในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้
- Facebook: บ้านรักไทย (แม่ฮ่องสอน)
4. ดอยเสมอดาว น่าน นอนนับดาว ชมทะเลหมอกยามเช้า
สมชื่อ ดอยเสมอดาว ในคืนที่ฟ้าเปิด เปลี่ยนฉากเป็นโรงละครแห่งดวงดาวนับล้านดวงที่จะส่องประกายระยิบระยับอยู่เต็มฟากฟ้า จนรู้สึกราวกับว่าสามารถเอื้อมมือไปคว้าได้ และเมื่อแสงแห่งรุ่งอรุณมาถึง ผืนป่าเบื้องล่างจะถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอกที่ไหลผ่านหุบเขา โดยมีแม่น้ำน่านทอดตัวเป็นฉากหลัง เป็นภาพที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความสงบในเวลาเดียวกัน การได้กางเต็นท์นอนดูดาวสักคืน คือประสบการณ์ที่นักเดินทางต้องจดจำไปตลอดกาล
- จุดเด่น: จุดชมดาวที่สวยงามและชัดเจน, ทะเลหมอกยามเช้าแบบ 360 องศา, ชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกในบริเวณใกล้เคียงกัน
- การเดินทาง: จากตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าสู่อำเภอนาน้อย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1083 และ 1216 ตามลำดับ จนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
5. ภูลังกา พะเยา มหัศจรรย์สายหมอก ภูผาหินปูน
ภาพของสายหมอกที่โอบล้อมยอดเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา มนต์เสน่ห์ของ วนอุทยานภูลังกา จุดหมายสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง “ภูเทวดา” และ “ดอยหัวลิง” คือสองยอดเขาหินปูนที่เป็นฉากหลังอันงดงามของทะเลหมอกยามเช้า การตื่นขึ้นมาในรีสอร์ทเล็กๆ แล้วพบกับภาพสายหมอกลอยอยู่ตรงหน้าต่าง คือความสุขเรียบง่ายที่หาได้จากที่แห่งนี้
- จุดเด่น: ทะเลหมอกที่สวยงามอลังการ, ทิวทัศน์ภูเขาหินปูนอันเป็นเอกลักษณ์, บรรยากาศเงียบสงบ
- การเดินทาง: ใช้เส้นทางเชียงคำ-ปง (ทางหลวงหมายเลข 1092) ก่อนจะเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 1148 มุ่งหน้าไปทางอำเภอสองแคว จังหวัดน่าน วนอุทยานจะอยู่ทางซ้ายมือ
6. ภูกระดึง เลย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิต
ยากลำบาก คำนิยามของการเดินทาง แต่ คุ้มค่า คือรางวัลสำหรับผู้พิชิต ภูกระดึง คือบทพิสูจน์ร่างกายและจิตใจของนักเดินทาง เส้นทางกว่า 9 กิโลเมตรที่ต้องปีนป่ายขึ้นไป จะทดแทนด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่บนยอดภู ทั้งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ป่าสน และหน้าผาอันโด่งดังอย่าง “ผาหล่มสัก” ที่ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง การได้นั่งมองดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ณ ปลายผา คือเครื่องยืนยันว่าทุกหยาดเหงื่อที่เสียไปนั้นมีความหมาย
- จุดเด่น: เส้นทางเดินป่าที่ท้าทาย, ธรรมชาติที่หลากหลายบนยอดภู, จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม โดยเฉพาะผาหล่มสัก
- การเดินทาง: จากตัวจังหวัดเลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 สู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หรือนั่งรถทัวร์มาลงที่ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานฯ
7. เชียงคาน เลย สูดลมหายใจริมฝั่งโขง
กาลเวลายังคงเดินทางอย่างเนิบช้าที่ เชียงคาน เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง บ้านไม้เก่าแก่ที่เรียงรายบนถนนชายโขงยังคงบอกเล่าเรื่องราวในอดีต ในยามเช้าตรู่ สายหมอกจะลอยละเลียดเหนือลำน้ำโขง เป็นภาพที่สงบและงดงาม การตักบาตรข้าวเหนียวซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา คือการเริ่มต้นวันที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยการเดินเล่นบนถนนคนเดิน ลิ้มลองอาหารพื้นถิ่น และปล่อยใจไปกับความเรียบง่าย
- จุดเด่น: วิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง, ตักบาตรข้าวเหนียว, ถนนคนเดินและบ้านไม้เก่า, ภูทอกจุดชมทะเลหมอก
- การเดินทาง: สามารถบินไปลงที่สนามบินเลย แล้วเช่ารถหรือใช้บริการรถสาธารณะต่อไปยังอำเภอเชียงคาน หรือเดินทางโดยรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไปลงที่เชียงคานได้โดยตรง
8. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา เสียงเพรียกจากผืนป่าดงพญาเย็น
ไม่ต้องเดินทางไกลถึงภาคเหนือ เขาใหญ่ ผืนป่ามรดกโลกก็พร้อมต้อนรับลมหนาวแรกด้วยอากาศที่เย็นสบายและธรรมชาติที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ในเดือนตุลาคม ป่าจะเขียวขจีเป็นพิเศษ น้ำตกต่างๆ ยังคงมีน้ำไหลแรง และโอกาสที่จะได้พบเห็นสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น ช้างป่า กวาง หรือนกเงือก ก็มีสูง การได้ขับรถไปตามเส้นทางในอุทยานฯ และหยุดมองชีวิตของสรรพสัตว์ คือการเติมพลังจากธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง
- จุดเด่น: ผืนป่ามรดกโลกที่อุดมสมบูรณ์, โอกาสพบเห็นสัตว์ป่าสูง, น้ำตกสวยงามหลายแห่ง, อากาศเย็นสบายตลอดปี
- การเดินทาง: เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธินผ่านรังสิต สระบุรี แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง จะมีป้ายบอกทางขึ้นอุทยานฯ ชัดเจน
- Facebook: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park
9. สังขละบุรี กาญจนบุรี มนต์เสน่ห์แห่งเมืองสามหมอก
สังขละบุรี เมืองชายแดนที่หลอมรวมวัฒนธรรมไทย มอญ และกะเหรี่ยงไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ตื่นเช้ามาเพื่อชมภาพ “สะพานมอญ” สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ทอดตัวยาวเหยียดท่ามกลางสายหมอกที่ลอยเหนือผืนน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ คือภาพจำอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ การล่องเรือชมวัดจมน้ำ และสัมผัสวิถีชีวิตชาวมอญ คือการเดินทางที่ไม่ได้ให้แค่ภาพสวยงาม แต่ยังเติมเต็มด้วยเรื่องราวและวัฒนธรรม
- จุดเด่น: สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ), วิถีชีวิตชาวมอญ, ล่องเรือชมวัดจมน้ำ, ทิวทัศน์สายหมอกเหนืออ่างเก็บน้ำ
- การเดินทาง: จากกรุงเทพฯ นั่งรถทัวร์หรือรถตู้มาลงที่ตัวเมืองกาญจนบุรี แล้วต่อรถตู้หรือรถโดยสารประจำทางสายกาญจนบุรี-สังขละบุรี
- Facebook: สะพานมอญ สังขละบุรี
10. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี พิชิตสันคมมีดแห่งป่าตะวันตก
สำหรับนักเดินทางสายผจญภัย อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ คือจุดหมายที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เส้นทางเดินป่าสู่ “เขาช้างเผือก” มีสันคมมีดอันน่าหวาดเสียวเป็นไฮไลท์ (เปิดให้เที่ยวประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) คือที่สุดของความท้าทาย แต่หากต้องการเส้นทางที่นุ่มนวลกว่า “เนินกูดดอย” และ “เนินช้างเผือก” ภายในที่ทำการอุทยานฯ ก็มอบทิวทัศน์ของเทือกเขาสลับซับซ้อนและสายหมอกยามเช้าได้อย่างงดงามไม่แพ้กัน
- จุดเด่น: เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติสุดท้าทาย, จุดชมวิว 360 องศา, ทะเลหมอกและทิวเขาตะนาวศรี
- การเดินทาง: จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3272 (ทองผาภูมิ-ปิล๊อก) จนถึงที่ทำการอุทยานฯ
- Facebook: อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ – Thongphaphum National Park
แม้ท่องเที่ยวเดินทางในประเทศ ก็อย่าลืมซื้อประกันการเดินทาง
แม้ว่าท่องเที่ยวในประเทศไม่ได้มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำประกันการเดินทางเหมือนการไปต่างประเทศ แต่การมีประกันไว้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเพื่อซื้อความสบายใจ ป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเปลี่ยนทริปสนุกๆ ให้กลายเป็นเรื่องปวดหัวและเสียเงินก้อนโตได้
ทั่วไปแล้ว ความคุ้มครองหลักๆ ที่มีประโยชน์มากในการเที่ยวในประเทศ มี 4 อย่างนี้ ที่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ประกันจะช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายแทนเราได้เยอะมาก
1. ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย
นี่คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดครับ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ (ลื่นล้ม, มีดบาด) ไปจนถึงอุบัติเหตุใหญ่ หรือการเจ็บป่วยกะทันหัน เช่น อาหารเป็นพิษรุนแรง, ไข้สูง, ไส้ติ่งอักเสบ ประกันจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงในวงเงินที่กำหนด ซึ่งอาจสูงถึงหลักแสนบาท ช่วยให้เราเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและดีที่สุดได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
2. การยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
หากคุณจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักแบบคืนเงินไม่ได้ แล้วเกิดเหตุจำเป็นที่ทำให้เดินทางไม่ได้ เช่น ตัวเองหรือคนในครอบครัวป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ประกันบางแผนจะชดเชยค่าเสียหายในส่วนนี้ให้
3. ความเสียหายหรือสูญหายของทรัพย์สิน/กระเป๋าเดินทาง
หากกระเป๋าเดินทางล่าช้า หรือทรัพย์สินส่วนตัวอย่างกล้องถ่ายรูปหรือโน้ตบุ๊กเสียหายจากอุบัติเหตุหรือถูกขโมย ประกันจะช่วยชดเชยตามมูลค่า
4. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
หากเจ็บป่วยหนักในพื้นที่ห่างไกลที่โรงพยาบาลท้องถิ่นมีเครื่องมือไม่พร้อม ประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า
ยิ่งการท่องเที่ยวในเดือนตุลาคม หลายสถานที่ที่ผมแนะนำ สำหรับคนสายลุย สายแอดเวนเจอร์ ชอบกิจกรรมท้าทาย เช่น เดินป่า, ปีนผา, ดำน้ำ, ล่องแก่ง มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าปกติ หรือแม้แต่ทริปง่ายๆ แต่มีพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่อายุเยอะไปด้วย ก็เสี่ยงต้องใช้ประกัน เพราะป่วยกะทันหันง่ายกว่าเด็กๆ
การเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีอาจทำได้ลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูงในการเคลื่อนย้าย เช่นถ้าเกิดขาหักบนดอย ต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วย ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่าการย้ายคนบนพื้นราบ
หากใครกำลังมองหาประกันการเดินทางในประเทศ ที่วางใจได้ น่าเชื่อถือ ขอแนะนำ ไทยพาณิชย์ โพรเทค SCB Protect สั่งซื้อประกันออนไลน์ได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชม. ความคุ้มครองหลากหลายและครอบคลุมรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์และบริษัทประกันภัยที่คุณเลือก รับประกันภัยโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
สนใจดูรายละเอียดประกันคลิกที่รูป
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
