หนุ่มพนักงานโรงแรม เข้าแจ้งความ เหตุถูกสายเคเบิ้ลเกี่ยว ขณะขับรถไปทำงาน
เมื่อช่วงสายวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า”ฉันมองตัวเธอ ผิดไป”ได้โพสต์ภาพนิ่งจำนวน 2 ภาพผ่านสังคมออนไลน์ โดยคลิปเป็นชายอยู่ในสภาพรถจักรยานยนต์ล้มกลางถนน โดยมีสายเคเบิลพันกับรถจักรยานยนต์ จากนั้นได้มีพลเมืองดีและหน่วยกู้ภัยเข้าให้การช่วยเหลือตัดสายเคเบิลและนำส่งผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยผู้โพสต์เขียนข้อความไว้ว่า”ต้องทำยังไงดี จะเดินไปไหนก็ไม่ได้” และมีเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้มีการโพสต์คลิปความยาว 44 วินาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง ห่างกันราว 2 ชม.พร้อมเขียนข้อความไว้ว่า”ขอขอบคุณพี่ที่ขับรถตู้ที่ยอมจอดรถทั้งๆที่มีแขกติดมาในรถ เพื่อมาช่วยผม ผมขอนับถือน้ำใจของพี่จริงๆครับ คนอื่นผ่านมองแล้วผ่านไป แต่ผมเข้าใจครับว่าเขาต้องรีบไปทำงาน” #เกิดอุบัติเหตุทางก่อนขึ้นเขาทางไปกะตะภูเก็ต
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 15 ก.พ.ที่สถานีตำรวจภูธรฉลอง จ.ภูเก็ต นายซาการี ยาเวกาวิ อายุ 26 ปี พนักงานโรงแรมย่านหาดกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ”ฉันมองตัวเธอ ผิดไป”และเป็นผู้โพสต์ภาพนิ่งและคลิปดังกล่าวได้เข้าพบ พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง และ พ.ต.ท.ธาดา โสดารักษ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.ฉลอง เพื่อให้มีการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบที่เป็นเจ้าของสายเคเบิลดังกล่าว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจากสายเคเบิลดังกล่าว ร่วมรับฟัง หลังให้ข้อมูลแล้วเสร็จ พนักงานสอบสวนได้พาตัวนายซาการีไปดูที่เกิดเหตุ บริเวณทางไปหาดกะตะ ถ.ปฎัก ต.ฉลอง อ.เมือง โดยมีเจ้าหน้าที่จาก กสทช.ประจำ จ.ภูเก็ตร่วมตรวจสอบด้วย
นายซาการี เล่าว่า เมื่อช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขับรถจยย.ไปทำงานตามปกติ ระหว่างขับขึ้นเขากะตะ ถ.ปฏัก ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ตอยู่ดีๆก็โดนสายเคเบิ้ลดังกล่าวเกี่ยวตัวรถ จนตนเองกระเด็นลงจากรถ และนอนอยู่บนถนนคนเดียว กระทั่งมีคนที่ผ่านมาช่วยโบกรถให้ และเรียกหน่วยกู้ภัยมาให้ ซึ่งสายเคเบิ้ลดังกล่าว มีลักษณะ สีขาว คล้ายสลิง ห้อยอยู่สูงจากพื้นเล็กน้อย ก่อนเกี่ยวเข้ากับตะกร้าหน้ารถ จนตนเองล้มลง ทั้งนี้ได้รับบาดเจ็บที่เข่าเจ็บ คางแตก และบาดแผลถลอกหลายจุด
ด้าน พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง ได้เปิดเผย ว่าหลังจากได้รับร้องเรียนก็ให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นได้รับแจ้งจาก กสทช.ว่าสายดังกล่าวเป็นของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานให้มาพูดคุยแสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้น คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะผู้เสียหายบาดเจ็บไม่มาก ทั้งนี้เหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง