แกร็บ เปิดเกมรุกปี’ 68 ชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T เน้นโตยั่งยืน ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแอปเรียกรถ-สั่งอาหาร ขยายบริการ SAVER ทั่วไทย – ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ – หนุนรัฐดึงนักท่องเที่ยว

แกร็บ เปิดเกมรุกปี’ 68 ชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T เน้นโตยั่งยืน ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแอปเรียกรถ-สั่งอาหาร ขยายบริการ SAVER ทั่วไทย – ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ – หนุนรัฐดึงนักท่องเที่ยว
แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจแอปเรียกรถและแอปสั่งอาหารอันดับ เผยไฮไลท์ความสำเร็จในปี 2567 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” ผ่าน 5 กลยุทธ์ “S.M.A.R.T” มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Sustainability) ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุกเจเนอเรชัน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Market Expansion) นำเสนอทางเลือกของบริการในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordability) รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ-พาร์ทเนอร์ร้านค้า (Retention) พัฒนาเทคโนโลยีและบริการใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน (Tech & Innovation)
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2567 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยมของ แกร็บ ประเทศไทย โดยเรายังคงครองความเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้ใช้ให้ความเชื่อมั่นทั้งในบริการเรียกรถผ่านแอปและเดลิเวอรี ทั้งยังสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกธุรกิจ โดยมีไฮไลท์ความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย ผ่านกิจกรรมสำคัญอย่าง การเปิดให้บริการจุดรับ-ส่งในสนามบินหลักทั้ง 4 แห่ง อันได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ การทำแคมเปญเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรอง ควบคู่ไปกับการขยายบริการเรียกรถไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนจัดตั้งภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Taskforce) เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค ด้วยอานิสงส์ของนโยบายดังกล่าว ทำให้ในปีที่ผ่านมา ยอดใช้บริการเรียกรถในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตขึ้นถึง 138%
“เรายังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนำเสนอนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและแก้ปัญหา (pain point) ในชีวิตประจำวันของคนในอีโคซิสเต็ม อาทิ การอัปเกรดฟีเจอร์Group Order หรือบริการสั่งอาหารแบบกลุ่ม ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมียอดสั่งอาหารเติบโตขึ้น 2 เท่า การปรับโฉมฟีเจอร์ Advance Booking หรือบริการจองล่วงหน้า โดยมียอดใช้บริการพุ่งขึ้นถึง 60% ในช่วงเทศกาล รวมถึงบริการ Dine Out Deals หรือการขายดีลพิเศษสำหรับการรับประทานที่ร้าน ซึ่งมียอดการใช้บริการเติบโตขึ้นกว่า 11 เท่า
ขณะเดียวกัน เรายังได้นำเสนอทางเลือกใหม่ของบริการในราคาที่เข้าถึงได้ ผ่านการเปิดตัวบริการ GrabCar SAVER และ GrabBike SAVER ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก สะท้อนผ่านยอดใช้บริการที่เติบโตขึ้นมากกว่า 4 เท่า3 การเพิ่มตัวเลือก Delivery SAVER ในบริการสั่งอาหาร ซึ่งมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า3 รวมถึงการเปิดตัวซับแบรนด์ Hot Deals เพื่อนำเสนอดีลลดแรงจากร้านอาหารดังทั่วประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาช่วยให้ผู้ใช้บริการประหยัดเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) โดยเฉพาะบริการ GrabAds ที่ปรับรูปแบบจากการขายโฆษณาเป็นการนำเสนอโซลูชันการตลาดแบบสร้างสรรค์ (Creative Marketing Solutions) เพื่อช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจสามารถสร้างแบรนด์และยอดขายจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ รวมถึงบริการ Grab For Business ที่มีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ จนมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 80%” นางสาวจันต์สุดา กล่าวเสริม
สำหรับในปี 2568 แกร็บ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้วิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” โดยมุ่งสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันและตอกย้ำบทบาทของแกร็บ ในฐานะผู้นำซูเปอร์แอปเพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจการเดินทางและเดลิเวอรี ควบคู่ไปกับการสานต่อพันธกิจ GrabForGood ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับคนไทย โดยจะมุ่งเน้นไปที่ 5 แนวทางหลักภายใต้กลยุทธ์ “S.M.A.R.T” ซึ่งประกอบด้วย
S: Sustainability มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แกร็บยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลง เชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเดินหน้าสานต่อโครงการสำคัญอย่าง “โครงการ Grab EV” ที่ส่งเสริมให้คนขับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อลดผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันมียอดการใช้รถ EV แล้วกว่าหนึ่งหมื่นคัน ควบคู่ไปกับ “โครงการชดเชยคาร์บอน” ที่ให้ผู้ใช้บริการร่วมบริจาคเงินผ่านฟีเจอร์ Carbon Offset เพื่อนำไปซื้อคาร์บอนเครดิตและทำกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มทดลองกิจกรรมใหม่ ๆ อย่าง “โครงการ Grab Go Green อิ่มคุ้มช่วยโลกกับ GrabFood” ที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการสั่งอาหารในราคาพิเศษในช่วงก่อนปิดร้านเพื่อช่วยลดขยะอาหารจากร้านค้า เป็นต้น
ในด้านสังคม นอกเหนือจากกลุ่มคนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้าซึ่งเป็นคนในอีโคซิสเต็มแล้ว แกร็บยังได้ส่งเสริมการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ผ่าน “โครงการ GrabSpark” ที่เปิดเวทีให้นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยได้แสดงศักยภาพผ่านการประกวดแผนธุรกิจ พร้อมโอกาสในการฝึกงานกับแกร็บ รวมถึง “โครงการ GrabScholar” กับการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเปิดตัว อย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
M: Market Expansion ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุ กเจเนอเรชัน
ในปีนี้ แกร็บเดินหน้าขยายบริการเพื่อให้ครอบคลุมคนทุกเจเนอเรชัน โดยล่าสุดได้เปิดตัว 4 หนุ่มสุดฮอตอย่าง เจมีไนน์-โฟร์ท และ สกาย-นานิ ในฐานะ “Friends of Grab” เพื่อดึงดูดกลุ่ม Gen Z และ Millennials เสริมทัพ เบลล่า-ราณี ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ แกร็บยังได้ผลักดันการใช้ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) เพื่อขยายการให้บริการไปยังกลุ่ม Baby Boomer และ Gen Alpha ผ่านผู้ใช้บริการหลัก (Core User) ที่ต้องการเรียกรถให้กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนอาวุโส (พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่) และกลุ่มเด็กเล็ก (ลูก-หลาน)
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปีนี้แกร็บยังคงเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะนโยบาย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ของรัฐบาล ผ่านการสนับสนุนและเข้าร่วมอีเวนท์สำคัญระดับประเทศและเทศกาลเชิงวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี อาทิ งาน S2O Songkran Music Festival งาน Siam Songkran Music Festival และ Maha Songkran World Water Festival 2025 เป็นต้น
A: Affordability นำเสนอทางเลือกของบริการในราคาที่เข้าถึงได้
แกร็บเตรียมต่อยอดความคุ้มค่าสำหรับบริการเรียกรถด้วยการขยายบริการ GrabCar SAVER และ GrabBike SAVER ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากเดิมที่ทดลองให้บริการเฉพาะหัวเมืองหลัก
สำหรับบริการฟู้ดเดลิเวอรี แกร็บยังคงชูไฮไลท์ซับแบรนด์ “Hot Deals” ดีลลดแรงจากร้านดังทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนร้านที่เข้าร่วมโปรแกรม ควบคู่ไปกับการนำเสนอโปรโมชันตามช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ รวมถึงการชูแคมเปญใหญ่ อย่าง “GrabFood Mega Sale” ที่มอบส่วนลดจัดหนักสูงสุดถึง 80% พร้อมส่งฟรีให้กับผู้ใช้บริการทั่วประเทศ
R: Retention รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ- พาร์ทเนอร์ร้านค้า
GrabUnlimited ถือเป็นโปรแกรมหลักที่ช่วยมั
สำหรับคนขับ แกร็บจัดเต็มสิทธิประโยชน์มากมายสำหรับคนขับที่ให้บริการดีอย่างต่อเนื่อง อาทิ ฟรีประกันรถจักรยานยนต์ และการลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับบริการสินเชื่อเงินสด สำหรับคนขับ GrabBike และฟรีประกันสุขภาพสำหรับคนในครอบครัว สำหรับคนขับ GrabCar พร้อมจัดกิจกรรมเซอร์ไพรส์แจกรถยนต์-รถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลสำคัญ เป็นต้น
สำหรับกลุ่มพาร์ทเนอร์ร้านค้า แกร็บยังเดินหน้าพัฒนาบริการสินเชื่อเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นทุนในการขยายธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาประกันค้าขายหายห่วง เพื่อให้ความคุ้มครองผู้ประกอบการธุรกิจจากเหตุไม่คาดฝันด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท
T: Tech & Innovation พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน
ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับภูมิภาค แกร็บยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันและตอบโจทย์ความต้องการของคนในอีโคซิสเต็ม
ในปีนี้ แกร็บได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตั้งแต่ต้นปี อาทิ Advance Booking for Airport Pickups บริการจองรถล่วงหน้าเพื่อให้มารับที่สนามบินโดยสามารถระบุไฟลท์และเวลาเดินทางเพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนขับได้ ซึ่งปัจจุบันได้ทดลองให้บริการแล้วที่สนามบินภูเก็ต GrabExecutive บริการเรียกรถล่วงหน้าระดับพรีเมียม ที่เจาะกลุ่มนักธุรกิจและลูกค้าไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว Book Table บริการสำหรับจองร้านอาหารเพื่อรับประทานที่ร้าน ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือและเชื่อมต่อกับระบบของ Chope ซึ่งมีจุดแข็งในด้านระบบการจองร้านอาหาร และล่าสุดกับการพัฒนา QR Payment เพื่อเพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้กับผู้ใช้บริการ ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาให้กับคนขับที่อาจมีเงินสดสำรองไม่เพียงพอ
“ตลอดระยะเวลาเกือบ 12 ปีของการดำเนินธุรกิ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- DGA เผย ดิจิทัลวอลเล็ตได้เป็น “เลขสิทธิ” ไม่ใช่เงินสด รับทดสอบระบบอยู่
- วันหยุดธนาคาร เมษายน 2568 ช่วงสงกรานต์ ธนาคารในห้างเปิดไหม
- วิธีพบหมอออนไลน์ ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ผ่านแอปฯ สุขภาพครบวงจร