ชื่นชมคุณหมอ นาทีช่วยชีวิต ผดส.หยุดหายใจ เที่ยวบิน TG408 จนลงจอดปลอดภัย

หมอแป๊ป โพสต์เล่านาทีช่วยผู้โดยสารหยุดหายใจ เที่ยวบิน TG408 ของการบินไทย หลังส่งสัญญาณ “Squawk 7700” ย้ำสิ่งสำคัญอย่าลืมฝึกเรียนซีพีอาร์
จากกรณี เที่ยวบิน TG408 ของการบินไทย ซึ่งเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชางงีของประเทศสิงคโปร์ เมื่อเวลา 19.48 น.ของวันที่ 18 ก.พ.68 มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ได้แจ้งรหัส “Squawk 7700” ระหว่างบินอยู่เหนืออ่าวไทย ซึ่งเป็นสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินกับหอบังคับการบิน โดยต่อมาเมื่อเวลา 20.33 น. เครื่องบินลำดังกล่าวได้ลงจอดอย่างปลอดภัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ด้าน เฟซบุ๊ก “Phattarapon Atimetin” ของนพ. ภัทรภณ อติเมธิน หรือ “หมอแป๊ป” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งอยู่บนเที่ยวบินลำดังกล่าวของการบินไทยได้โพสต์บันทึกเหตุการณ์ “Cardiac Arrest on Plane” หรือภาวะฉุกเฉินที่ต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วนบนเครื่องบิน โดยคุณหมอระบุว่าตัวเองต้องพาคนในครอบครัวบินกลับมารักษาอาการบาดเจ็บที่รพ.มิติเวช
แต่เรื่องพีคมาตอนที่อยู่บนเครื่องบินซึ่งคุณหมอเพิ่งนั่งกินข้าวเสร็จไมท่นาน ปรากฎมีประกาศฉุกเฉิน แจ้งว่าต้องการหมอบนเครื่อง เนื่องจากเจอผู้โดยสารท่านนึงนอนหมดสติอยู่ จากนั้นคุณหมอเจ้าของเรื่องระบุต่อว่าตนเองได้ยินประกาศก็รีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
“เข้าไปประเมินเลย หายใจแบบ gasping อยู่ (ก็คือหายใจเฮือก หรือไม่หายใจนั่นแหละ) ชีพจรก็ไม่มี เจอแบบนี้ปั้มลูกเดียว แต่ต้องบอกเลยว่า Cabin Crew (ลูกเรือหรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน) การบินไทยสุดยอดครับ แปะ AED พร้อมกับทำ CPR อยู่แล้ว ผมก็รีบด้วยความเป็นหมอฟื้นฟู แต่ยังไปเป็นแพทย์อำนวยการด้านการแพทย์งานวิ่งอยู่บ้าง เลยยังพอได้ทบทวนอยู่เรื่อยๆ ขั้นตอน CPR ได้อยู่ ก็เลยเปลี่ยนไปปั๊มเอง กับขอหน้ากากช่วยหายใจมาบีบช่วยคนไข้ AED ไม่ได้แนะนำให้ Shock เลยคิดว่าหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว


ทั้งนี้ หมอแป๊ปสรุปถึงช่วงนาทีชีวิตได้มีการปั๊มหัวใจต่อไปซัก 2 รอบ ก่อนชีพจรจะขึ้น!!! หลังจากชีพจรมา ผู้โดยสารเริ่มหายใจปกติ ลืมตาปริบๆ แล้วก็เริ่มรู้ตัวขึ้นเรื่อยๆ วัดความดันชีพจรได้ปกติ แล้วลูกเรือก็ให้ย้ายมานั่งข้างผู้ป่วยเลย กับ 50 นาทีที่เหลือบนเครื่อง พร้อมกับครอบครัว
อย่างไรก็ดี แม้จะช่วยจนผู้โดยสารพ้นวิกฤตแล้ว แต่คุณหมอบอกว่ายังมีปัญหาเล็กๆไ ที่ต้องกังวล คือ เรื่องส่งต่อผู้ป่วยเพราะปกติจะส่งต่อเลย แต่เหตุการณ์นี้อยู่บนเครื่องจึงไม่แน่า่ใจจะส่งผู้ป่วยต่อให้ใคร แต่ได้เตรียมท่อช่วยหายใจไว้เผื่อกลับไปหายใจไม่ดีอีกและก็อยากเปิดเส้นเลือดเตรียมไว้ แต่ให้ช่วยประกาศก็ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์คนอื่น บนเครื่องมาช่วยเปิดเส้นแล้ว เลยลองขอกัปตันดูว่า ขอโทรหาเพื่อนปรากฏว่าโทรได้ แต่รอบแรกท่านไม่รับเพราะนึกว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รอบ 2 รับ แล้วก็ให้คำแนะนำเพิ่มเติมมา เลยสบายใจขึ้น

ทั้งนี้ คุณหมอเจ้าของเรื่องยังได้เขียนขอบคุณ อ.ศรัทธา ศรัทธา ริยาพันธ์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศิริราช เป็นอย่างยิ่งกับเรื่องราวทั้งหมด จากนั้นทิ้งท้ายว่าได้นั่งเฝ้าคนไข้จนเครื่องลง โดยไฟลท์บินเร็วมากแทรกทุกคิว เร็วกว่ากำหนด พอรอกระทั่งส่งเคสให้ทีมที่มารับช่วงต่อเสร็จเรียบร้อย คุณหมอหัวใจสุดน่ายกย่องคนนี้ก็อัปเดตอาการของคนในบ้านที่พามารักษานิ้วที่สมิติเวช ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดีจนนายแพทย์อดไม่ได้จะกล่าวย้อินถึงผลบุญที่ทำบนเครื่องบินลำที่เกือบระทึกหนัก โดยยังไม่ลืมจะชื่นชมลูกเรือทั้งหมดที่เริ่มช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดการดูแล ทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตได้สำเร็จ
สุดท้ายคุณหมอย้ำว่าที่เล่ามาทั้งหมด อยากจะขอชวนทุกคนไปเรียนการทำ CPR เพราะไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ แต่ถ้าต้องใช้แล้วทำไม่เป็นจะมาเสียดายทีหลังก็ไม่ทันแล้ว
ทั้งนี้ THAI Corporate Communications เฟซบุ๊กหลักฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัทฯ การบินไทย ยังได้โพสต์ข้อความว่า “ขอแสดงความขอบคุณ คุณหมอ Phattarapon Atimetin และขอชื่นชมทีมลูกเรือการบินไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านในเที่ยวบิน TG408 ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างเต็มความสามารถทุกท่านนะคะ”
ขณะเดียวกันการบินไทยชี้แจงกรณีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังสิงคโปร์ บินกลับมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามที่มีสื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอ ข้อความที่มีเนื้อหากรณีเที่ยวบินที่ TG401 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังสิงคโปร์ ต้องบินกลับมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากกระจกเครื่องบินแตก
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงว่า เที่ยวบินที่ TG401 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เส้นทางกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 19.00 น. นักบินตรวจพบว่ากระจกในห้องนักบินบานหลังซ้าย มีรอยร้าวที่ชั้นนอกสุดจากทั้งหมด 3 ชั้น จึงตัดสินใจทำการบินกลับสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบริษัทฯ ได้เปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่และออกเดินทางเป็นเที่ยวบิน TG401D วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เส้นทางกรุงเทพฯ – สิงคโปร์ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 09.00 น. ถึงสิงคโปร์ เวลา 12.25 น. (เวลาท้องถิ่น)
ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการปฏิบัติการบินที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่านในทุกๆ เที่ยวบินตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และขออภัยผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกท่านมา ณ โอกาสนี้.

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เผยสาเหตุ เครื่องบินการบินไทย TG408 ส่งสัญญาณฉุกเฉิน ขณะอยู่เหนืออ่าวไทย
- งานเข้า ลูกเรือยืนถ่ายรูปบนปีกเครื่องบิน ขณะเครื่องดีเลย์ ต้นสังกัดแจงแล้ว
- วุ่นทั้งลำ ลูกเรือสายการบินกัมพูชา เปิดศึกทะเลาะวิวาท เครื่องบินดีเลย์ 6 ชม.
- เปิดคำพูดแรก ลูกเรือผู้รอดชีวิต จากเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ไถลรันเวย์