ช็อก สองสาวนอร์เวย์ เพิ่งรู้ ถูกสลับตัวตอนเกิด หลังผ่านไปเกือบ 60 ปี
สองสาวชาวนอร์เวย์ช็อกหนัก หลังทราบความจริงในเกือบ 60 ปีให้หลังว่า ถูกสลับตัวกันตั้งแต่แรกเกิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหน่วยงานภาครัฐปกปิดข้อมูล
สำนักข่าวต่างประเทศ NEW YORK POST รายงานว่า ผู้หญิงชาวนอร์เวย์ทั้งสองรายนี้ ซึ่งปัจจุบันอายุ 59 ปี ได้ร่วมมือกับ ‘คาเรน รัฟต์เซธ ด็อคเคน’ หนึ่งในแม่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาล กรณีการสลับตัวทารก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ด็อคเคน ได้ให้กำเนิดทารกเพศหญิง ที่โรงพยาบาลเอกชน Eggesboenes ในนอร์เวย์ตอนกลาง ซึ่งในขณะนั้นทารกแรกเกิดจะถูกดูแลรวมกัน และเหล่าแม่ ๆ จะแยกพักฟื้นในห้องพักอีกส่วน และหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เธอกลับบ้านพร้อมกับทารก ที่ตั้งชื่อว่า ‘โมนา’ ตามชื่อแม่ของเธอ โดยเธอคิดมาตลอดเด็กน้อยผู้นี้เป็นลูกสาวของตัวเอง
หลังผ่านมาตลอดปี ‘ด็อคเคน’ รู้สึกแปลกใจที่ลูกสาวของเธอมีผมหยิกสีดำ แต่ก็คิดว่าลูกสาวอาจจะได้เชื้อมาจากแม่ของสามี ที่มีผมสีเข้ม โดยเธอคิดมาตลอดเด็กน้อยผู้นี้เป็นลูกสาวของตัวเอง และเลี้ยงดูอย่างดีในฐานะลูกสาวของตัวเอง
จนกระทั่งช่วงต้นทศวรรษ 2000 ด็อคเคน ก็ได้รู้ความจริงว่า โมนา ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ และลูกสาวที่เธอให้กำเนิดถูกเลี้ยงดูโดยครอบครัวอื่น และใช้ชื่อว่า ‘ลินดา คาริน ริสวิค โกทาส’ และด็อคเคน น่าจะรู้ความจริงเร็วกว่านี้ หากหน่วยงานสาธารณสุขของนอร์เวย์ ที่ตรวจพบเหตุการณ์สลับตัวทารก ตั้งแต่ปี 1985 ในขณะที่เด็กหญิงทั้งสองยังเป็นวัยรุ่น ไม่ได้เลือกที่จะปกปิดเรื่องนี้ไว้
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่า โมนาจะไม่ใช่ลูกสาวของฉัน” ด็อคเคน วัย 78 ปี กล่าวทั้งน้ำตา ขณะให้การต่อศาล ในกรุงออสโล
แน่นอนว่าสถานการณ์นี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก สำหรับโมนาเป็นอย่างมาก เพราะเธอเพิ่งรู้ว่าด็อคเคนไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเธอ หลังจากตัดสินใจทำการทดสอบ DNA เมื่อตอนอายุ 57 ปี
ในคดีความครั้งนี้ ผู้หญิงทั้งสามคน อ้างว่า หน่วยงานของนอร์เวย์ละเมิดสิทธิ และบ่อนทำลายสิทธิในการมีชีวิตครอบครัวของพวกเธอ โดยทั้งหมดได้เรียกร้องให้รัฐบาลขอโทษ และจ่ายค่าชดเชย
คริสติน อาร์เร ฮาเนส ทนายความของ โมนา แถลงการณ์ต่อศาลว่า “รัฐได้ละเมิดสิทธิในอัตลักษณ์ของเธอมาตลอดหลายปี” และ “พวกเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จนในวันนี้ พ่อแท้ ๆ ของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว และยังทำให้เธอไม่ได้ติดต่อกับแม่ที่แท้จริงของเธออีกด้วย”
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีรายงานด้วยว่า ผู้หญิงที่เลี้ยงดู ‘ลินดา’ ลูกสาวแท้ ๆ ของด็อคเคน ซึ่งเธอเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดโมนา รู้ความจริงตั้งแต่ปี 1981 แต่ไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อเรียกร้องสิทธิความเป็นแม่แต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน หน่วยงานสาธารณสุขของนอร์เวย์ ก็ได้โต้แย้งกลับว่า เหตุการณ์สลับตัวทารกเกิดขึ้นในโรงพยาบาลเอกชน ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ซึ่งในเวลานั้นพวกเขาไม่มีอำนาจที่จะแจ้งเตือนครอบครัวอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่า เหตุการณ์สลับตัวทารกเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มีการยืนยันแล้วว่า นี่เป็นหนึ่งในหลาย ๆ กรณีที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล Eggesboenes ในช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โรงพยาบาลกระทุ่มแบนสลับตัวเด็ก ชี้แจง ทำพลาดตรงไหน จนบานปลาย
- รพ.ชุ่ย สลับตัวทารกแรกคลอด พ่อเอะใจ ลูกเกือบไปอยู่พม่า นัดขอเยียวยา
- ‘นอร์เวย์’ เตรียมดันกฎหมายใหม่ ต้องอายุ 15 ปีขึ้นไป ถึงจะเล่นโซเชี่ยลได้