เจ้าหนี้มีหวัง ทนายดังเผย แชทกู้ยืมเงิน แคปเป็นหลักฐานฟ้องศาลได้
ทนายหงส์ หัทยา อั้นเต้ง ตอบข้อสงสัยของบรรดาเจ้าหนี้ หลักฐานกู้ยืมเงิน จำเป็นต้องบันทึกในรูปแบบลายลักษณ์อักษรเท่านั้นรึเปล่า และหากต้องการดำเนินคดีเอาผิด แต่ไม่ได้ร่างสัญญาเป็นตัวหนังสือ สามารถใช้แชทหลักฐานยื่นฟ้องได้ไหม
ล่าสุด ทนายดังได้ออกมาเผยข้อฎหมายเกี่ยวกับหลักฐานการกู้ยืมเงินว่า ข้อความแชทถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เจ้าหนี้สามารถนำมาใช้ฟ้องร้องลูกหนี้ได้ โดยมีรายละเอียดของประมวลกฎหมายและขั้นตอนในการดำเนินคดีฟ้องร้องเอาผิดไว้ดังต่อไปนี้
วิธีใช้ภาพแชทเป็นหลักฐาน กู้-ยืม ฟ้องร้องเอาผิดได้
อ้างอิงตามประมวลกฎหมาย พยานหลักฐานแห่งการกู้ยืมไม่จำเป็นที่จะต้องทำขึ้นเป็นกระดาษเสมอไป เพราะไม่ว่าจะทำขึ้นบนวัตถุใด ๆ ก็สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานฟ้องร้องบังคับคดีได้ไม่ต่างกัน แต่ต้องเป็นหลักฐานที่ปรากฏข้อความตัวอักษรที่สื่อสารให้เข้าใจได้ว่าเป็นการกู้ยืมกันระหว่างสองฝ่ายและมีการลงลายมือชื่อไว้ด้วย หมายความว่า การกู้ยืมโดยส่งข้อความสื่อสารกันผ่านทางไลน์ หรือทางเฟซบุ๊ก ถือเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นการยืนยันและลงลายมือชื่อในตัว อันนำมาเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีได้
แนะนำหลักฐานสำคัญสำหรับฟ้องร้องคดีกู้ยืม
รวมหลักกฎหมายเกี่ยวกับการกู้ยืมฉบับครบ หลักฐานในการฟ้องร้องคดีกู้ยืม กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ #มาตรา653วรรคหนึ่ง “การกู้ยืมกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่”
ดังนั้น หลักฐานแห่งการกู้ยืมที่จะต้องมีในการฟ้องร้องดำเนินคดีคือเอกสารที่ลงลายมือชื่อลูกหนี้ถ้าไม่มีกฎหมายกำหนดว่าฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้เลย นั้นคือหลักกฎหมาย แต่ในปัจจุบัน แชตบนแอปฯ ที่มีระบบยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้ facebook messenger หรือ application line หรือที่รู้ชื่อบัญชีผู้สนทนา รู้ว่าใครยืม ใครเป็นผู้ให้ยืม ข้อความสนทนา เช่น จะยืมจำนวนเท่าไหร่ จะคืนเมื่อไหร่ หลักฐานการโอน statement หรือสลิปการโอนต่าง ๆ เหล่านี้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีได้
พยานหลักฐานแห่งการกู้ยืม ไม่จำเป็นที่จะต้องทำขึ้นเป็นกระดาษเสมอไป จะทำขึ้นบนวัตถุใด ๆ ก็ตาม ก็สามารถที่จะนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานฟ้องร้องบังคับคดีได้ หากปรากฏข้อความเป็นตัวอักษร สามารถสื่อสารกันได้ว่า เป็นการกู้ยืมกันระหว่าง และที่สำคัญผู้กู้ยืมได้ลงลายมือชื่อไว้ด้วย ถือว่าเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม ตามมาตรา 653 วรรคแรกแล้ว
เปิด พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 4 ให้ความหมายของคำว่า “ธุรกรรม” หมายความว่า การกระทำใด ๆ ที่เกี่ยวกับกิจกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ หรือในการดำเนินงานของรัฐตามที่กำหนดในหมวด 4 คำว่า “อิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า การประยุกต์ใช้วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคล้ายกัน และให้หมายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วิธีการทางแม่เหล็กหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้วิธีต่าง ๆ เช่นว่านั้น และคำว่า “ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ปฏิเสธความมีผลผูกพันและการบังคับใช้ทางกฎหมายของข้อความใดเพียงเพราะเหตุที่ข้อความนั้นอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์”
คำพิพากษาฎีกาที่ 6757/2560 เป็นเรื่องที่เจ้าหนี้ประชดลูกหนี้โดยการปลดหนี้ให้ในแชท (chat) สนทนา ศาลฎีกาได้นำหลักกฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาใช้บังคับโดยตีความว่าการปลดหนี้ในแชท (chat) ในเครือข่ายออนไลน์ เป็นการปลดหนี้โดยได้ทำเป็นหนังสือ จึงมีผลเป็นการปลดหนี้ที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
เจ้าหนี้เอาผิดผู้กู้ โดยไม่ต้องใช้หลักฐานลายลักษณ์อักษร
สรุปการกู้ยืมโดยส่งข้อความสื่อสารกันผ่านทางไลน์ (LINE) หรือทางเฟซบุ๊ก (Facebook) นั้น ถือได้ว่าข้อความนั้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นการยืนยันและลงลายมือชื่อในตัวถือเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีได้แล้ว
ทั้งนี้ สำหรับเจ้าหนี้ท่านใดที่กำลังเผชิญปัญหาลูกหนี้เบี้ยวคืนเงิน แต่ไม่สามารถดำเนินคดีฟ้องร้องผู้กู้ได้ เพราะไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษร ขณะนี้สามารถใช้ข้อความบนสนทนาบนโซเชียลเป็นหลักฐานเอาผิดได้เช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง