การเงิน

‘โครงการคลินิกแก้หนี้ 2566’ เปิดแล้ว ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สิน จบครบในที่เดียว

รัฐบาลเชิญชวนลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระ เข้าร่วม ‘โครงการคลินิกแก้หนี้ 2566’ ผ่านสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้เบ็ดเสร็จในที่เดียว

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตหรือธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) จัดให้มีโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระสามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ควบคู่ไปกับการส่งเสริมไปกับการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน

Advertisements

โดยมีการปรับเกณฑ์การช่วยเหลือลูกหนี้ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เห็นถึงความสำคัญของปัญหาหนี้ครัวเรือน และต้องการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ ได้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระมากกว่า 120 วันขึ้นไป สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสียก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เท่านั้น

นายอนุชา กล่าวย้ำว่า นอกจากนี้โครงการได้เพิ่มทางเลือกแผนการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ในโครงการที่เริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ ซึ่งหากผิดนัดชำระซ้ำ จะต้องกลับไปดำเนินการแก้ไขหนี้ โดยตรงกับเจ้าหนี้ โดยโครงการจะพิจารณาเหตุผลความจำเป็น เพื่อแนะนำแผนการชำระหนี้ใหม่ที่เหมาะสมให้กับลูกหนี้เป็นรายกรณี เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ต่อเนื่องจนปลดหนี้ในที่สุด

ทั้งนี้ การปรับแผนการชำระหนี้ดังกล่าวจะจำกัดจำนวนครั้งและความถี่ อีกทั้งในระยะแรกของการปรับโครงสร้างหนี้ โครงการมีเงื่อนไขไม่ให้ลูกหนี้ก่อหนี้ใหม่ เพื่อสร้างวินัยและความรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ได้อย่างยั่งยืน โดยในส่วนของลูกหนี้ที่ยังมีความสามารถชำระได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยแนะนำให้ชำระหนี้ต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เสีย ซึ่งจะกระทบประวัติทางการเงินและความสามารถกู้ยืมในอนาคต

คุณสมบัติผู้ร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ 2566 มีอะไรบ้าง

  1. เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี (รวมระยะเวลาปรับโครงสร้างหนี้)
  2. เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
  3. เป็นหนี้เสีย (NPL) ค้างชำระมากกว่า 120 วัน
  4. หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
  5. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
คลินิกแก้หนี้ คุณสมบัติผู้สมัครมีอะไรบ้าง
ภาพจาก Facebook : คลินิกแก้หนี้ by SAM

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้

  1. ใบสมัครเข้าร่วมโครงการเครดิตบูโร (ครบทุกหน้า)
  2. สำเนาบัตรประชาชน (ไม่หมดอายุ)
  3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
  4. เอกสารแสดงรายได้ แยกตามกรณี ดังนี้
    กรณีเป็นพนักงานประจำ : ใช้สลิปเงินเดือนล่าสุด 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
    กรณีประกอบอาชีพอิสระ : รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน (ล่าสุด) หรือหนังสือรับรองรายได้
เอกสารสมัครโครงการคลินิกแก้หนี้ มีอะไรบ้าง
ภาพจาก Facebook : คลินิกแก้หนี้ by SAM

วิธีการสมัครโครงการคลินิกแก้หนี้ 2566 มีช่องทางใดบ้าง

  1. สมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com
  2. ช่องทางไปรษณีย์ (สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.คลินิกแก้หนี้.com พร้อมทั้งเตรียมเอกสารให้ครบและส่งมาที่ ตู้ ปณ. 40 ปณฝ. ซันทาวเวอร์ส กรุงเทพฯ 10905)
  3. สมัครที่สำนักงานของโครงการฯ ทั้ง 5 แห่ง
รัฐบาลชวนสมัคร โครงการคลินิกแก้หนี้
ภาพจาก Facebook : คลินิกแก้หนี้ by SAM

ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงการดังกล่าว มีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป โดยประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูล หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือ LINE (@debtclinicbysam) และ เฟซบุ๊ก คลินิกแก้หนี้ by SAM

Advertisements

รวมถึง Call Center โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น. พร้อมขอให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้รู้จักโครงการและรับทราบสิทธิในการสมัครเข้าร่วม เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะถูกขายหนี้หรือถูกบังคับคดี

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button